
กินแคลเซียมต้องมี DAK2 – วิตามินจะได้ประสิทธิภาพสูงสุดต้องเล่นเป็นทีม แล้วคุณละอยู่ทีมเดียวกับร่างกายหรือยัง
เนี่ยเฮียเอง | วิตามินK2 วิตามินD วิตามินA 3ทหารเสือแห่งแคลเซียม – สิริพรรณ #siripun
วันนี้ผมมีวิตามินตัวนึงน่าสนใจดี มาเล่าให้ฟังกันครับ
วิตามิน K2 ซึ่งในนัตโตะหรือถัวเน่าญี่ปุ่น โคชูจังเกาหลี ถั่วหมักต่างๆ หรือแม้แต่ชีส จะมีวิตามินตัวนี้พอสมควรเลยครับ
เจ้าตัวนี้มีส่วนสำคัญในการลำเลียงแคลเซียมไปที่กระดูกและเสริมสร้างความแข็งแรงให้ผนังหลอดเลือด ถึงตรงนี้หลายๆคนคงจะรีบหา K2 มากินประมาณว่า เดี๋ยวไปตุนไว้เย็นนี้เลยใช่ไหมครับ ใจเย็นๆ ฟังต่อไปก่อนนะครับ
เราอาจเคยได้คำแนะนำเรื่องการเสริมแคลเซียมเพื่อกระดูกแข็งแรง แต่มีการวิจัยมาว่าถึงเราเสริมแคลเซียมไปเท่าไร หากขาดวิตามิน K2 ที่เป็นตัวนำพา ซึ่งต้องทำงานควบคู่กับวิตามิน D3 และA ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการนำไปใช้ ทำให้การเสริมแคลเซียมดังกล่าวนั้นก็แทบจะเปล่าประโยชน์เลยครับ ถ้าขาดวิตามินเหล่านี้
วิตามิน D3 นั้นควรได้จาก UV B ในแสงแดด ดังนั้นเราอย่ากลัวแดดเลยครับ เชื่อไหมว่าในระยะหลังคนไทยเป็นโรคขาด วิตามินD ด้วยวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปหลบแดดตลอดเวลา และกลไกการตลาดเรื่องการปกป้องผิวจากแดดทั้งจากครีมทั้งจากค่านิยมขาวเท่านั้นคือสวย ทำให้เราเสียโอกาสในการรับวิตามิน D กันไปเลยทีเดียว ส่วนวิตามิน K2 กับ A เราได้จากการกินอาหาร
การทำงานของทีมนี้จะประมาณนี้ครับ เริ่มจาก
วิตามินD3 นั้นจะทำให้ร่างกายรับแคลเซียมได้มากขึ้น | | V วิตามินK2 ก็จะนำพาไปยังกระดูก จากนั้น | | V วิตามิน A ก็จะเอาส่วนที่เหลือขับออกไปทางปัสสาวะ |
เห็นไหมครับ มีการรับส่งกันอย่างเป็นทีมเวิร์ค ทำให้เกิดกลไกที่ดีกับร่างกาย ในเนื้อหาที่ผมค้นคว้ามานี่ เจ้าวิตามิน K2 นั้น เค้าใช้คำว่า K2 มีหน้าที่นำพาแคลเซียม ไปอยู่ในที่ๆมันควรอยู่ ในที่นี้ถ้าเรามองในจุดเล็กๆ ก็ไม่ผิดที่จะหมายถึงเข้าไปให้กระดูกใช้งาน แต่ถ้าเรามองภาพกว้าง คำว่าที่ๆควรอยู่ของแคลเซียม ก็อาจหมายความได้ว่า มันไม่ควรอยู่ในหลอดเลือดก็ได้นะครับ ในบางแหล่งข้อมูลถึงใส่ข้อดีของวิตามิน K2 ว่าช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อหลอดเหลือดหัวใจตีบตัน นี่คือทีมาของการที่ วิตามิน K2 นำแคลเซียมไปอยู่ในที่ๆมันควรอยู่ นั่นเองครับ
ในวันนี้เท่ากับว่าเราได้คุยกัน เรื่องวิตามินK2 และความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้าน เห็นไหมครับ ต้นบทความกับรูปประกอบ มันคือถั่วหมัก แล้วก็มีคำว่าวิตามิน K2 ถ้าไม่อธิบายกลไก พี่ๆก็อาจจะวิ่งเข้าชนนัตโตะกันแบบซอมบี้ แล้วหวังว่ากระดูกพี่จะแข็งแรง ทั้งที่วงจรนี้จะสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อองค์ประกอบทั้งหมดครบและทำงานได้สัมพันธ์กัน ซึ่งในรูปที่ผมลงไว้ มันเป็นนัตโตะกินคู่กับไข่แดง เพราะไข่แดงนั้นจะให้วิตามิน เอ และบี12 รวมถึงไบโอตินและซิลิเนียมด้วย ในทีเดียวกันเลย เห็นไหมครับว่า แพร์ริ่ง ดีอย่างกับไวน์และชีสเลย
นี่เป็นแค่ตัวอย่างทีมย่อยเดียวเองนะครับ แค่เพื่อให้ฉุกคิดถึงสุขภาพองค์รวมว่า ยังมีอีกหลายทีมในร่างกายเรา
อย่างที่ผมเคยพาดพิงอยู่บ่อยๆว่า ชีวะ เราไม่ควรจับจดจับจ้องอยู่กับแค่เพียงบางส่วน ไม่ควรมุ่งมองแค่คาร์บ ไม่ควรมุ่งกดแค่อินซุลิน เพราะกลไกร่างกายสิ่งมีชีวิตต่างจากเครื่องจักร แค่เปลี่ยนเฟือง ถอดนมหนู เปลี่ยนคาบุเรเตอร์ ก็ไม่ได้หมายความว่ารถจะวิ่งได้ดีขึ้น
ทุกอย่างในร่างกายล้วนแต่มีความสัมพันธ์กัน เกี่ยวโยงซับซ้อนยิ่งกว่าเครือข่าย MLM ระดับโลกซะอีกนะครับ ดังนั้นเวลาที่ผมนำเสนอของกินอะไรถึงต้องติดแฮชแทคเสมอว่า #กินได้ไม่ได้หมายความว่าให้หากินยัดทะนานเหมือนปอบลง เราพุ่งชนเป็นซอมบี้ไม่ได้ครับ