เข้าสู่ปีที่6 ของ Keto Easy
วันนี้คือวันก้าวเข้าสู่ขวบที่6 ของน้อง อโวคาดี้ จิ๊กกี๋คีโต แห่ง Keto Easy
สิ่งที่เรียกว่า Digital foot printed ทำให้ facebook บันทึกไว้อย่างเป็นทางการว่า เพจสร้างเมื่อ 17 April 2018
ผมยังจำวันนั้นได้ เหมือนกับว่ามันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้
ย้อนกลับไปช่วงปี 2017 คีโตเตาะแตะ ทำให้การค้นคว้าหาความรู้มันสนุกมากๆครับ ทุกอย่างเป็นเรื่องใหม่หมดเลย ทุกอย่างเกิดจากการตั้งคำถามแล้วหาคำตอบ พอได้อะไรมาก็นำมาทำโพสพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน จึงทำให้ช่วงปี 2017 เรียกได้ว่าระเบิดการทดลองและการเรียนรู้มากมาย
ทางผมเองจะไปในด้านกึ่งๆวิชาการ กึ่งๆความเป็นไปเป็นมาต่างๆ ซึ่งคงจะไม่เล่าตรงนี้เพราะหลุด theme วันนี้ theme หลักคือ Keto Easy
ทางคุณเอ๋ ก็หนักไปทางการทดลองสูตรขนม อาหารต่างๆ ในยุคนั้นยังมีคนทำขนมคีโตน้อยมากครับ เวลาคิดอะไรได้ก็เอามาแจกสูตรแบ่งกันทำกิน เพราะมันหาของกินยากลำบากเหลือเกิน ไม่มีการขายแม้แต่แอะเดียว
คุ้กกี้ในตำนาน เป็นสูตรแรกที่คนตั้งสมญานามให้ ไม่แน่ใจว่าถ้ากลับไปหาในแว่นขยายจะยังเจอไหม แต่เราไม่ได้สนใจจะรู้แล้วครับ 5555 เพราะอะไร ขอทดไว้ในใจก่อน
หลังจากนั้นก็มีอีกหลายๆสูตรที่ทำออกมาแจกกัน ไม่ว่าจะเป็นกล้วยดิบเคลือบช็อคโกแลต ขนมจีบจำแลง เบเกิ้ล ฯลฯ จนมาถึงเชงเม้ง ก็ได้ปล่อยสูตร เจแปนนิส ชีสเค้ก คีโต ออกมา
ปรากฎว่าได้รับการตอบรับล้นหลาม คนคีโตมีขนมดีๆกินกันอย่างมีความสุข
จนถูกเรียกว่า ชีสเค้กในตำนาน เป็นสูตรที่ได้คำว่า ตำนาน ไปอีกหนึ่งอย่าง และทุกวันนี้ยังเป็นสูตรตั้งต้นที่หลายๆคนหัดทำกัน ว่ากันตรงๆก็ต้องบอกเลยว่า คุณเอ๋เองก็รู้สึกขอบคุณคนที่เอาคำว่าตำนานมาแปะไว้ให้ต่อท้ายสูตรเป็นความอภิเชษฐ์ในสิ่งนั้น แต่ก็ต้องเข้าใจว่ามันก็ไม่ได้เทพแบบแตะต้องไม่ได้หรือรู้สึกว่าเรายิ่งใหญ่อะไรขึ้นมาเลย มันเป็นคำว่าตำนานเพราะความคุ้นเคยแค่นั้นเลย
จะบอกว่าในอีกด้านหนึ่งของเรื่องนี้ สูตรชีสเค้กในตำนาน หลังจากที่ปล่อยสูตรไปสักพักนึง มันก็ได้สร้างความปวดใจให้กับเราไม่น้อยเลยทีเดียว โดยมีประเด็นใหญ่ๆอยู่ 2 ประเด็นคือ
1 คุณเอ๋ ไมไ่ด้ให้สูตรนี้เพื่อไปทำขาย
ความตั้งใจปรับสูตรนี้ขึ้นมาก็เพื่อให้คนมีขนมกิน แล้วไม่ต้องไปหลุดคาร์บมากมาย สัดส่วนผ่านการคำนวนมาแล้ว วัตถุดิบผ่านการคิดมาแล้ว ผ่านการทดลองทิ้งไปแบบไม่ต้องนับเลยว่ากี่แบทเทอร์
วัตถุดิบมันมี ครีมชีส วิป เนย ไข่ สารให้ความหวาน
เห็นอะไรไหมครับ มันเป็นวัตถุดิบที่คาร์บต่ำมาก การอักเสบน้อยมาก เป็นขนมที่โคตรคีโตเลยครับ เสียดายความั้งใจที่สุดท้ายก็มีคนมากมายเอาไปทำขาย เมื่อถึงช่วงที่เริ่มมีการค้าในคีโตขึ้นมา แต่เราก็ควรมองในแง่ดีของมันคือ คนที่ทำไม่เป็นและไม่อยากหัดทำ ก็พอจะมีทางเลือกได้บ้าง ในข้อแม้ว่าคนทำยังให้ของดีๆจริงๆ
2 มีคนเอาสูตรไปปรับใหม่ เป็นน้ำตาลหลายถ้วยเลย แล้วปล่อยต่อโดยบอกว่าเป็นสูตรคุณอ๋ อันนี้งงสุด
อย่างที่บอกบ่อยๆครับ ว่าการแก้ข่าวแม่งยากมากๆ เหมือนเรื่องอิริทไวรัล ที่เพิ่งผ่านไปหละครับ คนจะจำว่า อิริท สร้างลิ่มเลือด ไปอีกยาวนานครับ เคสน้ำตาลเป็นถ้วยๆในสูตรชีสเค้กก็เช่นกัน ผลกระทบที่มาจังๆคือ คนมาต่อว่าเยอะมาก ว่าทำไมคิดสูตรหวานมาก จะให้คนกินคีโตหวานๆไปทำไม หวานจนกินไม่ได้เลย โอย สารพัดสารเพเลยครับ 5555 ทั้งที่สูตรดั้งเดิม ใช้อีควลสตีเวีย แค่1-2ซองเองมั๊ง
จนในที่สุด ต้องลุกขึ้นมา ชำระสูตรให้ใหม่ ปรับจากน้ำตาลอีควลซองมาเป็นอิริท ตามสมัยนิยม แล้วบอกให้คนช่วยลืมๆไอ้สูตรน้ำตาลเป็นถ้วยๆ ที่ใครไม่รู้เอาไปปล่อยต่อมั่วๆ เสียที แต่ไม่รู้ว่าพลังของการแก้ข่าวมันจะไปได้แค่ไหน
ออกนอกเรื่องไปไกล 555
หันหลังให้ยุทธภพ
กลับมาเข้าเรื่องครับ ด้วยความที่ปี 2017 เป็นปีแห่งความพลุ่งพล่าน การโพสคอนเทนท์วิชาการมากมาย ที่ได้จากการอ่านเนื้อหาต่างประเทศ จึงมีออกมาเยอะมาก ไม่เฉพาะจากพวกเรา แต่คนใน community สมัยนั้นก็มาช่วยๆกัน เพราะคนที่กินคีโตในตอนนั้นคือคนใฝ่รู้พอสมควร เนื่องจากต้องอ่านจากต่างประเทศเท่านั้น พอคนแบบเดียวกันมาเจอกัน มันก็เลยระเบิดข้อมูลมาให้กันมากมาย
มากจนไปเข้าหูไดเอทและสุขภาพอื่นๆ มากจนเริ่มมีการแอนตี้การไดเอทแบบคีโต จนมีสงครามระหว่างกลุ่มที่มีความคิดทางไดเอทต่างๆกันอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งด้วยคนใน community ตอนนั้นก็พื้นฐานค่อนข้างแน่น ทำให้การฟาดฟันกันเรียกว่าจะไม่ค่อยยั้งมือกันเท่าไร ก็ต้องยอมรับครับว่าค่อนข้างจะอยู่ใกล้ชิดในทุกๆสงคราม ทุกวันนี้มองกลับไปเห็นได้ชัดว่า ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย
แต่แล้วด้วยความที่แต่ละคนรู้สึกว่าได้ร่วมศึกกันต่อสู้เพื่อความรู้ใหม่ ที่ปลดแอกความเชื่อเก่าๆ สนองอัตตาความรู้ที่ค้นพบกันมากขึ้น และในที่สุดก็มากพอที่จะจัดกิจกรรม offline กันจนได้ พร้อมทั้งมีการเริ่มต้นของการค้าขายออนไลน์ ในด้านธุรกิจคีโต เกิดขึ้นในช่วงปลาย’17 ต้น ‘18
เมื่อกิจกรรม offline ได้ผ่านไปพร้อมกับอะไร อะไร มากมาย ทำให้เรารู้สึกว่า หันหลังให้ community แล้วมาเริ่มทำมาหากินในเส้นทางของตัวเองดีกว่า สาเหตุคืออะไร ตรงนี้ขอเก็บไว้เป็น timeline ที่หายไปแล้วกันครับ เรื่องมันใหญ่และพัวพันเกินจะเล่าได้ 55555 บันทึกไว้เพียงวันที่ 2 April 2018
เราตัดสินใจหันหลังให้คนหมู่มาก แล้วมาเริ่มทำอะไรจากศูนย์ ด้วยคนเพียง 3 คน
ใช่ครับ เราเริ่มจาก 3 คน เรามีบุคคลลึกลับอีก 1 คนที่ตอนนี้ออกไปใช้ชีวิตลั๊ลลาเรียบร้อยแล้ว
จุดกำเนิด Keto Easy และ เจ้าหนู อโวคาดี้ จิ๊กกี๋คีโต
17 April 2018 จำเวลาได้ว่าช่วงเที่ยงๆบ่ายๆ ผมกับคุณเอ๋ คุยกันว่าจะใช้ชื่ออะไรดี โดยคอนเสปชัดเจนมาตั้งแต่ต้นว่า เราควรทำเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องง่ายๆ คีโต ไม่ควรเป็นเรื่องยาก ไม่ควรมีองค์ ไม่ควรมีการขีดเส้น ตีกรอบ คีโตควรจะมาจากหลักแก่นที่ชัดเจน ก็มาที่ตัวเลือก 2 ชื่อระหว่าง easy keto ซึ่งเป็นคำที่ถูกไวยกรณ์ภาษาอังกฤษ กับ keto easy ซึ่งผิดหลักไวยกรณ์ แต่ถนัดปากคนไทยมากกว่า
พวกเราทั้งสามคน เลือกชื่อ keto easy ครับ 5555
แล้วก็ทำการสร้างเพจทันทีเพื่อทำชื่อเอาไว้ ในความจริงแล้วเรามี ภาพใหญ่เป็น umbrella อยู่แล้วว่าจุดยอดของปิรามิดเราคือ siripun.com ครับ มีการจดชื่อโดเมนไว้ตั้งแต่ 12 April 2018 ภาพเราชัดตั้งแต่ตอนนั้นว่า คีโต จะเป็นเพียงแค่ส่วนเดียวของสุขภาพองค์รวมที่เราจะสร้างสรรค์ในนาม siripun.com
วันนี้ 17 April 2023 ภาพคงชัดขึ้นกว่าเดิมมากแล้วว่า สุขภาพองค์รวม คือหัวใจหลักที่แท้จริงของเรา ด้วยแนวคิดของเพชร 3 เม็ด “ปริมาณ สำคัญกว่า ประเภท” , “คาร์บแลกคุ้ม” และ “ฉลาก3รู้”
ด้วยความที่ว่าเรามาจากสายวิชาการด้านคีโต ก็เลยดึงเอาคีโตขึ้นมาเป็นก้าวแรก เพจ keto easy จึงกำเนิดขึ้นมา พร้อมชื่อเต็มๆว่า “Keto Easy ที่นี่ คีโตเป็นเรื่องง่ายๆ สินค้า เนื้อหา สาระ พูดคุย คีโตไทยๆ” ด้วยความที่ตั้งใจว่าจะไม่เป็นแค่เพจขายของ แต่จะยังให้ความรู้คีโตต่อไป ในแบบที่เราอยากให้เป็น
และนี่เป็นจุดเริ่มต้นของการได้รับรู้ถึงการป้ายสีและแทงข้างหลัง เป็นระยะเวลายาวนานครับ 5555 เป็นเม่นเลยแหละ
เรารับรู้โดยตลอดว่ามีการสร้างเรื่องให้เราว่า หันหลังให้ community เพื่อมาเปิดเพจเอง ต้องการดึงมวลชนเข้าไปที่ตัว พร้อมกับเปิดหน้าเพจของเรา ให้หลายๆคนดูว่านี่ไงหลักฐาน
ซึ่งอย่างที่บอกในตอนต้นครับว่า ดีจังที่โลกนี้มี Digital foot printed ซึ่ง facebook ได้บันทึกไว้ชัดเจนว่า สร้างเพจเมื่อ 17 April 2018 เรียกว่าหลังเหตุการณ์ timeline ที่หายไปนั้น นานพอสมควร และที่สำคัญคือ การที่จะมีเพจเนื้อหาคีโตเพิ่มขึ้นมา มันจะเป็นอะไรนักหนาหรือว่ามันต้องมีที่เดียวเท่านั้น ถ้ามีเปิดเพิ่มมาต้องตกไปอยู่ฐานะ คนเลียนแบบ ก๊อปปี้…เหรอ ??? คำตอบคือ ใช่ครับ สมัยนั้นมันเป็นแบบนั้น ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่า ทำไมถึงมีการจะเป็นจะตายขึ้นมา ถ้ามีใครทำขนมซ้ำกันออกมาขาย ซึ่งเดี๋ยวเล่าให้ฟังภายหลัง
ตอนเริ่มต้นด้วยกำลังพลที่จำกัด พวกเราแบ่งหน้าที่กันชัดมากและลงเต็มสูบทุกคน คุณเอ๋ดูเรื่องสินค้า ผมดูเรื่องโพส เนื้อหา กราฟฟิค และบุคคลลึกลับดูเรื่องการติดต่อกับบุคคลภายนอก เราตั้งใจให้อีกคนติดต่อกับบุคคลาภยนอกเพราะเราต้องการล้างภาพของผมและคุณเอ๋ ให้ออกไปจากการเริ่มต้นใหม่นี้ ไม่ต้องการอ้างอิงชื่อเก่าๆ เพื่อสร้างฐานเองจาก 0 เพื่อพิสูจน์ว่า โลกมันกว้างเกินกว่าจะอยู่นมือใครคนเดียว อิสระในการเลือกมีจริงในโลกนี้
นั่นทำให้สินค้าแรกของเรา จึงไม่ใช่ขนมสูตรคุณเอ๋เลย เราเริ่มต้นจาก น้ำตาล lakanto USA ครับ เราเป็นเจ้าแรกๆที่ติดต่อกับทาง lakanto โดยตรงและนำเข้ามาจำหน่าย โดยที่ในขณะนั้นตลาดจะเทไปทางอิริท และหญ้าหวาน แล้วตัว lakanto ก็กลายเป็นไอเทมเทพของวงการคีโต ในรูปแบบ น้ำตาลไฮโซ ทั้งรสชาติและรูปลักษณ์
จนถึงเวลาอันสมควร เราคิดว่าควรจำนำทรัพย์สินทางปัญญาของเราออกมาทำมาหากินได้แล้ว ไม่รู้จะรออะไรกัน 5555 เราได้สร้าง คาแรคเตอร์ขึ้นมาตัวนึง เพื่อให้บุคคลลึกลับของเราใช้งาน จะได้ไม่ต้องใช้บัญชี facebook ส่วนตัวมาใช้งาน เรานำวัตถุดิบที่เห็นพ้องกันว่า เป็นวัตถุดิบที่มีประโยชนต่อคนคีโต นั่นคือ ไข่และอโวคาโด
เรานำมาทำเป็นตัวมาสคอท ให้ชื่อว่า อโวคาดี้ เพื่อล้อกับอโวคาโด แล้วบุคคลลึกลับของเราเป็นสตรี มีลักษณะนักเลงพอสมควร เราเลยให้เป็นจิ๊กกี๋ ซึ่งเป็นคำเก่าใช้เรียกจิ๊กโก๋ผู้หญิง นั่นก็เลยกลายเป็น
อโวคาดี้ จิ๊กกี๋ คีโต
เราใช้คาแรคเตอร์ของเพื่อนเรามาเป็นคาแรคเตอร์ของอโวคาดี้ ที่มีทั้งความกวน ความนักเลง โผงผาง ไม่สนใจใคร ถ้ามันจริงก็จะพูดมันตรงๆ เรามีการคิดเครื่องแต่งกายต่างๆนานา มีการเล่นตามเทศกาลต่างๆ หรือแม้แต่ไวรัลต่างๆมากมาย
จนเรารู้สึกว่ามันมีชีวิตจริงๆแล้วนะเนี่ย
เริ่มยุคของ คีโตเฮาส์
แล้ววันหนึ่ง คุณโคบี้ แห่ง Ketohouse ก็ติดต่อมาทาง อโวคาดี้ เรื่องเชิญชวนให้ไปออกร้านที่ตลาดนั้นคีโต ในตอนนั้นผมเช็คข่าวแล้วว่า ทางคีโตเฮาส์มีการโพสเชิญชวนตาม community ต่างๆอยู่แล้ว ก็สองจิตสองใจ ว่าจะไปดีไหม เพราะบอกตรงๆว่าไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับวงเวียนนี้อีกเลย แต่เห็นว่า นานวันเข้าก็ยังไม่มีแบรนด์ไหนแสดงความคืบหน้าในการจะไปออกร้านเลย
เราจึงคุยกันว่า ไปช่วยเขาหน่อยดีกว่าถ้าไม่มีใครสนใจแสดงว่ายังไม่ถึงกับเข้าข่ายพื้นที่เลี่ยงยุ่ง เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าธรรมชาติของ home made ไม่ค่อยกล้าเสี่ยงอะไรที่ต้องเป็นการเริ่มต้น เราจึงตัดสินใจตอบตกลงไป และเป็นที่มาของรหัส KTH001 เป็นคู่ค้าเจ้าแรกของ Ketohouse
สิ่งที่เราตั้งใจในการไปออกตลาดนัดคือ เรามั่นใจว่าตลาดมันโตได้ แต่ต้องการคนริเริ่ม คีโตเฮาส์จึงเป็นสนามที่เราได้เริ่มปฎิบัติการนี้ ด้วยการนำประสบการณ์ด้านการทำอีเวนท์ โฆษณา มาประยุกต์ใช้กับที่นี่ เริ่มต้นด้วยการตกแต่งโต๊ะวางสินค้า ให้สะดุดตา สามารถถ่ายรูปไปลง social ได้
เราไปพร้อมสินค้านำเข้า จากอเมริกา เราจัดวางของบนขนเฟอร์สีขาวสะอาด เราปริ้นตัวอโวคาดี้ ในท่าทางต่างๆ เราทำ merchandise ทำหมวกปักอโวคาดี้ ไปวางตกแต่งมากมาย แล้วทางคุณแจ็คกี้ ก็มาถ่ายช่วยถ่ายรูปไปลงเพจคีโตเฮาส์ เพื่อให้คนอื่นๆทราบว่า มีร้านมาขายที่นี่
ใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ ก็เริ่มมีแบรนด์อื่นๆตามเข้ามาขายมากขึ้น จนประมาณสัปดาห์ที่ 4 น่าจะเรียกว่าเริ่มเติบโตได้ มีคนมากินในร้านแบบเก้าอี้เต็ม มีการคิดเงินไม่ทัน ซึ่งเป็นเรื่องปกติของอะไรใหม่ๆแบบนี้
สำหรับที่คีโตเฮาส์ เราได้ใช้วิชาตกแต่งชั้นวาง จัดทำ pop กับที่นี่เพื่อให้คนจดจำแบรนด์ได้ และด้วยความที่ทำตัว low profile นั่งเงียบๆอยู่ที่โต๊ะในร้าน ทำให้ได้ยินทั้งสิ่งที่ดีใจและเสียใจ
ดีใจคือ มีคนมายืนถ่ายรูปป้ายสินค้าของเรา แล้วคุยกันว่าต้องทำป้ายแบบนี้ มีสีสัน มีคำอธิบาย มีโลโก้แบบนี้
เสียใจคือ มีคนมาเดินดูงานตามตู้แช่ต่างๆ แล้วคุยกันว่าจะทำอะไรบ้าง คอนเสปเขาคือ ทำซ้ำกันไปเลย แล้วกดราคาลงมา 5บาท 10บาท เดี๋ยวคนก็มาซื้อของเขาแทน
เห็นไหมครับ สิ่งนี้อยู่คู่กับโลกนี้มานานแล้ว การเริ่มโดยการลอกเลยแล้วดั้มราคาเอา
แต่โดยรวมแล้ว บรรยากาศแรกๆของคีโตเฮาส์นั้น สนุก อบอุ่น และเต็มไปด้วยเรื่องราวมากมายจริงๆ จากแค่ตลาดนัด ก็กลายมาเป็นซุปเปอร์มาร์เกตในที่สุด ทางเราเองทำงานร่วมกับคุณโคบี้ ได้ดีมาก เกือบทุกครั้งที่ลงโพส เรามักจะทำ link หรือใส่ข้อความ เชื่อมไปถึงร้านคีโตเฮาส์ด้วย เพื่อให้คนรับรู้ว่ามีร้านนี้เกิดขึ้น
ในวันที่มีตลาดนัดนั้น เราแทบจะลงโพสหน้าตู้ให้เป็นระยะเพื่ออัพเดทสต็อคกันเลยทีเดียว เพราะของมักจะหมดตั้งแต่บ่ายโมง ทั้งที่ทำมาใส่ไว้เต็มตู้
แม้ว่ายอดขายที่ลงไว้กับคีโตเฮาส์จะถือว่าดีในระดับนึง แต่ลูกค้าจากเพจเองก็แสดงปริมาณที่มากขึ้นอย่างมีนัยยะ ทำให้เราต้องตัดสินใจเลือกดูแลทางเพจ และลดกำลังของที่ลงกับคีโตเฮาส์ลง โดยบอกกับคุณโคบี้ไว้ว่า ตลาดน่าจะไปได้ด้วยดีแล้ว เราจะพยายามนำนูเทลาและเนยอัลมอนด์มาลงเรื่อยๆ และถ้าวันข้างหน้ามีขนม มีสินค้าอะไรออกใหม่ จะนำมาลงให้ที่คีโตเฮาส์ด้วยเป็นที่แรก
นูเทลา เนยอัลมอนด์ เนื้อหาวิชาการ ก่อนจะมาถึงขนม
อย่างที่บอกว่าเราเริ่มต้นจากการถอดรูปเงาะออกจาก community เก่าเลย ดังนั้นขนมจึงไม่ใช่สินค้าเรือธงในตอนแรก เราเลือกเนยอัลมอนด์ กับ นูเทลาคีโต เป็นตัวเริ่มต้น เพราะเป็นตัวที่มั่นใจในรสชาติมากๆ ว่าคนทำตามไม่ได้ง่ายๆ และใช้ของดีจริงๆ ไม่มีผงโกโก้เลย เราเลือกดาร์คชอคเพียวๆไม่ผสมวิป ไม่ผสมกะทิ ไม่ใส่แม้แต่สารหวานใดๆเลย มันเลยเป็นของที่แตกต่างและมีกลุ่มคนที่ชื่นชอบอย่างเหนียวแน่น
ทุกคนตอบเหมือนกันว่า เลือกกินแต่ตัวนี้เพราะมันแตกต่างอย่างชัดมาก สเปรดอื่นๆในคีโตตอนนั้น มีแต่ผสมกะทิ ผสมวิป มันทำให้เนื้อเสปรดเบาเกินไปไม่สะใจ ส่วนใหญ่จะใช้ผงโกโก้เพราะราคาถูก แม้จะเป็นโกโก้ดัชท์จากนอกแล้วก็ตาม โกโก้มันก็คือปลายทางจากการนำโกโก้แมสมาแยกคาเคาบัตเตอร์ออกไป มันเลยเหลือเป็นผลโกโก้ ดังนั้นความต่างกับการใช้ดาร์คชอค มันฟ้องได้ด้วยรสชาติจริงๆ
ดังนั้นคนที่เน้น texture เน้นรสชาติ จึงเหนียวแน่นกับสินค้าชุดนี้มากกว่า พวกเขาไม่ได้ต้องการของถูกๆ แต่เขาต้องการของดีๆ นี่คือผลพิสูจน์ ที่ทีมเรารู้สึกได้ว่า นี่แหละ ผลจากการค่อยๆปลูกคุณภาพจากเมล็ด มันเริ่มเติบโตเป็นต้นกล้าแล้ว การที่เราตัดสินใจว่า จะใช้วัตถุดิบคุณภาพเท่านั้น มันตอบคำถามเราแล้ว ว่าเราเลือกทางถูกไหม เข็มทิศเราชัดเจนแล้วว่า เราจะหันหัวเรือลำนี้ไปยังกลุ่มคนที่เน้นคุณภาพ และออกจากกลุ่มคนที่มองราคาเป็นหลัก ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ดีนะ แต่เราคงไม่ดีพอสำหรับพวกเขาต่างหาก เราพูดน้อย เราขายไม่เก่ง เราคงทำได้แค่ว่า ให้ของมันขายตัวมันเอง แล้วเราไปทุ่มเวลาทำมันให้ดีที่สุด ในมาตรฐานของเรา
เกร็ดเล็กๆน้อยๆคือ เดิมทีนั้นผมตั้งชื่อสินค้า 2 ตัวนี้ไว้ว่า Al-coco และ Al-loha
Al – coco มาจาก อัลมอนด์ กับ โกโก้ ส่วน Al-loha ไม่มีอะไรเลย ตั้งมาล้อกับตัวแรกเฉยๆ เพราะผมตั้งใจว่าจะออกเฉพาะตัวดาร์คชอคเท่านั้น เนื่องจากบ้านเรายังไม่ค่อย get กับการกินเนยถั่ว ดังนั้นยิ่งเนยถั่วอัลมอนด์ในบุคนั้นนี่ต้องคนเคยอยู่ต่างประเทศเลยหละ ถึงจะ get
แต่ที่พับชื่อนี้ไปก็เพราะคำว่า โกโก้ มันสื่อไปทาง ผงโกโก้ และนั่นเป็นสิ่งที่เราเลี่ยงที่สุดในการทำสินค้าออกมา เลยสรุปชื่อเป็น almond spread แล้วเรียกรสชาติไปเลย ซึ่งสุดท้ายคนก็เรียกมันว่า นูเทลา อยู่ดี ทำให้ฉลากรุ่นล่าสุด ต้องเติมคำว่า สไตล์นูเทลา เอาไว้
เพจที่เราเลือกทำนั้น ตั้งโครงสร้างไว้แต่แรกแล้วว่า จะมีทั้งเนื้อหา สาระ และ สินค้า ซึ่งในตอนแรกโดนติงจากที่ปรึกษาหลายท่านว่า จะทำเนื้อหาไปทำไม คนไทยไม่ชอบอ่าน ชอบแต่ถามและต้องการคำตอบสั้นๆ สู้ไม่ต้องทำเนื้อหาเลยแล้วมาเน้นสินค้าจะดีกว่าไหม ขายๆไปไม่ต้องไปต้องไปกระทบกับบางคน ที่คอยจ้องว่าเราอยากออกมาทำเนื้อหาแข่งด้วย
ซึ่งผมเองค้านหัวชนฝา เพราะเชื่อว่าใครจะทำอะไรถ้าไม่ได้ให้ร้ายผู้อื่น ย่อมมีสิทธิ์พึงกระทำ อีกทั้งสิ่งที่เราทำนั้นก็รักษามารยาทตามพึงมีอย่างที่สุดไว้ด้วย และสำคัญที่สุดคือ ผมไม่ดูถูกสติปัญญาคนไทย ว่าจะไม่สามารถเลือกได้เองเหรอ ว่าเนื้อหาไหนน่าสนใจ ควรค่าแก่การอ่าน เพราะการปิดช่องทางให้เหลือตัวเลือกเดียว แสดงว่าคิดเองเลยว่าคนไทยโง่ ซึ่งผมไม่เห็นด้วย และอยู่ในโลกที่กว้างพอที่จะเห็นการขยายตัวอะไรแบบนี้มาหลายสิบปีแล้ว สังคมก็คือสังคม แค่เรากำลังอินอยู่กับเนื้อหาแคบๆแค่นั้นเอง แล้วคิดไปว่านี่คือโลกของฉัน
ผมจึงเลือกที่จะผ่าเหล่าและพิสูจน์ให้ดูว่า สุดท้ายแล้ว เรื่องคีโต มันก็จะเป็นแค่เรื่อง just another diet แค่นั้นแหละ มูลค่าตลาดของมันก็จะเติบโตไปตามกลไกเอง ไม่ได้เป็น monopoly หรืออยู่ภายใต้อำนาจใครอย่างที่ใครๆฝันหวานหรอก ไม่ต้องมีเทวพา เทพยาดา ที่ต้องถวายของ ถวายตัว เพื่อความเมตตา
นอกจากเนื้อหาสาระแล้ว เราก็เริ่มนำขนมออกมาจำหน่าย ควบคู่กับการเริ่มสร้างคาแรคเตอร์ให้อโวคาดี มาสคอตของเรา ด้วยการเริ่มเข้าไปตอบในห้องทางเลือก โดยใช้แอคเคาน์อโวคาดี้ เข้าไปเพราะไม่อยากให้คนอ่านยึดติดกับตัวบุคคล ขนมคีโต ที่เรานำมาเป็นตัวแรกคือ ชีสเค้ก และ ดาร์คชอคกานาซ ที่เรามั่นใจในรสชาติและกล้าเรียกว่ากานาซ ไม่ใช่หน้านิ่ม ด้วยที่ว่ามันใช้ดาร์คชอคเน้นๆ ทำสไตล์กานาซ เข้มข้นจนไม่เกรงใจทุน อีกเช่นเดิม
สารพัดดรามา เมื่อตลาดคีโต เติบโตขีดสุด
ในช่วงปลายปี 2018 ไปจนถึง 2020 เป็นกราฟขึ้นแบบชันมาก สำหรับตลาดคีโต โดยเฉพาะตลาดขายฝากร้าน และแน่นอนว่าเมื่อมีคนมากขึ้น เมื่อมีเม็ดเงินเข้ามามากขึ้น ย่อมมีเรื่องราวมากขึ้นตามกันไปนั่นเอง ช่วงต้นปี 2019 เราก็ขาดกำลังหลักไป 1 คน บุคคลลึกลับนั้นมีอันต้องไปสร้างครอบครัว จึงถอนตัวออกไป แต่ก็ไปแบบอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ คือแวะมาช่วยเหลือกันเสมอๆ ทางออนไลน์
เราได้เห็นตั้งแต่ แม่ค้าทะเลาะกันเพราะทำของซ้ำกันออกมาขาย, ได้เห็นการกระทบกระเทียบกัน ที่ใช้แพคเกจคล้ายกัน, ได้เห็นการแอบย้ายของในตู้แช่ สำหรับบางร้านที่ให้จัดของกันเองได้, ไปจนถึงร้านแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มของอีกร้านเพื่อดึง contact แม่ค้าให้มาขายที่ร้านตัวเองบ้าง. ร้านดึงเงินแม่ค้าฝากขาย ตั้งแต่ไม่กี่หมื่นไปจนถึงเป็นแสนๆ, หนักถึงระดับร้านค่อยๆ clone สินค้าของแม่ค้าทีละตัว จนกระทั่งสินค้าในร้านเป็น house brand ครบทุกไลน์
เราไม่มองไม่ตัดสินเรื่องผิดถูก ยิ่งถึงทุกวันนี้แล้ว ระยะเวลามันก็พิสูจน์ตัวคนได้จริงๆ ใครทำอะไรไม่ดีไว้ สุดท้ายมันก็กลับมาทำร้ายตัวเอง เราไม่ต้องไปทำอะไรหรอกเรื่องแบบนี้ เดี๋ยวมันก็มีให้เข้าหูเอง ใครเคยยึดมั่นยึดถืออะไรไว้ สุดท้ายมันก็อนิจจัง เอาจริงๆมันเป็นเรื่องไม่ธรรมดาที่ธรรมดา ไม่ธรรมดาเพราะเรามองเรื่องแบบนี้เป็นปกติไม่ได้ในมุมมองของจริยธรรม ส่วนที่บอกว่าธรรมดาก็เพราะมันเกิดขึ้นทุกวินาที ทุกวงการ ส่วนที่เห็นว่ามันยิ่งใหญ่รุนแรงในวงการคีโต เพราะคีโตมันเล็กมาก และเป็นตลาดใหม่ที่เกิดจากคนกินเป็นหลัก หัดทำกินแล้วก็มาทำขาย ดังนั้นที่อยู่ๆในวงการก็เราๆท่านๆดีๆนี่เอง มันเลยดูจะอะไรมากมาย ก็เป็นเรื่องปกติที่จะเป็นเช่นนั้น
จะบอกว่าเราไม่โดนอะไรเลย ก็ดูจะโลกสวยไปสักหน่อย ว่ากันตามตรงคือ แม้จะอยู่เงียบๆของเราเอง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะหูหนวกตาบอด เรารับรู้ในหลายๆอย่างที่คนคิดว่าเราไม่รู้ เพียงแค่เราไม่เอามาพูดเท่านั้นเอง เรื่องที่สามารถเฉลยได้ในวันนี้จะยกตัวอย่างให้ได้บ้าง เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้เข้าใจว่า สมัยที่ผลประโยชน์มันเยอะนั้นอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ ตามกลไกของทุนนิยม และ พวกมากนิยม
เราเคยทราบว่า มีคนที่ไม่ใช่ผู้บริหารไปสั่งห้ามผู้บริหารร้านหนึ่ง ในการติดต่อสินค้าเราเข้าไปจำหน่าย แต่สุดท้ายร้านก็มาติดต่อเรา แม้ปลายทางจะผลลัพท์เดียวกันคือไม่มีสินค้าเราในร้าน แต่ก็บอกได้ว่า เหตุผลที่ไม่มีคือเราเลือกที่จะไม่ไป ตั้งแต่วันแรกที่รับรู้ว่ามีร้านนี้ ไม่ใช่เพราะเกลียดชัง แต่เพราะเราเองก็ยุ่งเกินกว่าจะมีร้านเพิ่ม รวมถึงคำสัญญาบางอย่างที่เราให้กับร้านนึงเอาไว้ เราเป็นคนรักษาสัญญา
เราเคยไปอุดหนุนร้านหนึ่ง เพราะอยากรู้ว่ารสชาติอาหาร ขนม และสำรวจตลาดไปในตัว โชคร้ายที่เราดันไปนั่งโต๊ะติดกับทีมบริหารพอดี โชคดีที่เราเป็นคน low profile ช่วงนั้นเราออกสินค้าที่ฮือฮาพอสมควร คือ โดนัทโคตรเกรซ โดนัทเค้กคีโต ที่เกรซหนาให้แบบไม่เกรงใจทุน ทำสถิติที่คีโตเฮาส์ ขาย 80แพค หมดภายในคืนเดียว ถึง 3คืนติดกัน ในช่วงเวลาที่คีโตเฮาส์ยังไม่ได้มีระบบ pre order
เราเห็นผู้บริหารเปิดหน้าเพจดูสินค้าเรา แล้วคุยกันว่า ต้องออกโดนัทแบบนี้เลยให้ได้ภายในคืนพรุ่งนี้ รายละเอียดขอไม่เล่าให้ฟังแล้วกันว่าเขาทำยังไงให้มีของภายในกำหนดนั้นได้ มันผ่านมานานแล้ว อย่าใส่ใจมันเลย ตอนนั้นเรานั่งฟังก็ดีใจนะ ที่เป็น role model ให้คนเค้าลอกได้ ถ้าเป็นสมัยก่อนก็คงจะโกรธ แต่พอมายืนด้วยขาตัวเองแล้ว มันรู้สึกดีใจ เพราะมันตอบได้ว่า เราทำของดี นั่นเอง
และตบท้ายด้วยดรามาครั้งใหญ่ที่สุดในวงการคีโต ที่มีคนวงการคีโตเบอร์เรียงเบอร์ตอง ถูกดึงไปเกี่ยวข้องหมด ร้านเก่าๆ เทรนเนอร์แรกๆ คงจะจำกันได้ดี แต่รุ่นสมัยนี้คงไม่รู้เพราะเรื่องจบไปนานแล้ว ฝากไว้แค่แผลใจคนรุ่นแรกเท่านั้น ผมเองก็จะโดนหนักหน่อยในฐานะวงรัศมีใกล้กับจุดเกิดเหตุ รวมถึงโดนป้ายขี้ว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังทั้งหมด ในฐานที่ “เก่งคอม” ช่างเป็นข้อสันนิษฐานที่ใช้ปัญญาเสียจริง ซึ่งตอนนั้นโชคดีที่มีผู้ใหญ่ในวงการปูทางไว้ ผมก็เลยแจ้งปฎิเสธอย่างเป็นทางการผ่านสื่อสาธารณะ และเก็บข้อมูลทั้งหมดเข้าเตรียมเข้าดำเนินการทางกฎหมาย ถึงระดับที่ว่าข้อมูลพร้อม ทนายพร้อม เส้นทางการติดต่อเจ้าหน้าที่พร้อม อย่างที่บอกว่าพอดีเราไม่ได้พึ่งพาบารมีใครในวงการคีโต ถ้ามันถึงเวลาจริงๆเราก็เลยพร้อมชนและถ้าต้องชน เราจะต้องชนะเท่านั้น ก็ถือว่าโชคดีที่ไม่ต้องไปถึงขั้นนั้นเนื่องจากเรื่องราวมันสงบไปเสียก่อน
เข้าใจว่าหลายๆคนไม่กล้าถาม สมัยนี้แล้วก็สามารถเล่าให้คร่าวๆได้แบบไม่รู้สึกอะไรแล้ว บอกไว้ตรงนี้ได้ว่า เหตุคราวนั้นที่มีคนบอกว่าเราเป็นคนทำ และอ้างหลักฐานประจักษ์นั้น ไม่มีจริงตามที่ลมปากพูด ในทางกลับกัน หลักฐานประจักษ์ที่เราได้มามันชัดแบบไม่มีเซนเซอร์ใดๆ จึงได้รู้ว่ามี FC ตามติดแม้กระทั่งทำอะไรกินกัน ทำให้ใครกิน คิดแทนเราได้ทุกอย่าง ว่าเราจะทำอะไรรวมไปจนถึงช่วยบอกคนอื่นให้ด้วย บอกได้ครับว่าข้อมูลที่ได้มหาศาล connection ที่มีในวันนี้ เฮียจัดโหนกระแสคีโตได้สบายๆ รับรองว่าคนดูจะต้อง “อุ้ย” กับคำว่า เลียไข่ ว่านี่หรือที่ออกมาจากความคิดของคนระดับนางฟ้า ภาพดีๆที่คนชื่นชม บอกได้เลยครับ โลกนี้ก็คือวงการบันเทิงนั่นแหละ
ดังนั้น ถึงชั่วโมงนี้แล้ว ประกาศโดยทั่วกันว่า ใครเคยได้ยินว่าพวกเราทำอะไรในทางให้ร้ายใคร จากปากของ “เขาว่า” ถึงตอนนี้คงเห็นชัดแล้วว่า มันจริงตาม “เขาว่า” ไหม
ที่สำคัญคือ เรามั่นใจว่า เราทำคุณประโยชน์ให้แม่ค้า ให้คนกินคีโต มากกว่าการพูดให้ร้ายนะ คำโบราณที่ว่า กาลเวลาพิสูจน์คน ใช้ได้เสมอ
ในช่วงปีนั้นหลายๆคนอาจมองว่ามีแต่ดรามา ด้วยความที่เรายืนอยู่อีกฟากของทะเล เราจึงมองว่า ใช่ส่วนหนึ่ง ไม่ใช่ส่วนหนึ่ง ก็ลงเอยได้ว่า โลกมันเป็นเช่นนี้แล
อีกดินแดนอันไกลโพ้น
ที่บอกว่าเรายืนอยู่อีกฟากของทะเล ก็เพราะว่า Keto Easy เหมือนกับลอยอยู่ในทะเล ไม่ได้มีดินแดนอะไรเป็นหลักแหล่ง ไม่มีร้านให้ฝากฝัง ใครโบกก็จอด แล้วเค้าลางมันก็เริ่มก่อตัวบางอย่าง ในช่วงปี 2019 เราเริ่มเหลือแค่เวลาทดลองสูตรใหม่ๆ แต่ไม่สามารถไปถึงการนำสูตรนั้นออกไปทดลองขาย เนื่องจากคิวเตา มันเริ่มแน่นจนขยับเวลามาลงอะไรใหม่ๆไม่ได้
โดยเฉพาะในปี 2020 มันเริ่มชัดมากขึ้นเลยว่า เริ่มมีคนยอมต่อคิว ยอมชำระค่าสินค้าไว้ก่อนเพื่อประกันว่า ที่สั่งไว้คือรับแน่ๆ ตอนแรกเราคิดว่าน่าจะเป็นเพราะการลงโฆษณาและ SEO ที่วางรากฐานไว้ตอนปี 2018 เพราะฐานข้อมูล report ออกมาว่า มาจากการค้น, เพจแนะนำ, บางส่วนก็มาจากการได้อ่านเนื้อหา แล้วเชื่อมั่นว่ารู้จริง จึงมั่นใจที่จะลองดู
สิ่งเหล่านี้ทำให้เรารู้สึกว่า เออ สมควรแก่การปักหลักบนดินแดนนี้แล้ว แม้ว่ามันจะเป็นดินแดนอันไกลโพ้น จากร้านค้าฝากขาย จากกลุ่มคนออนไลน์ที่สมาชิกสูงๆ เรายังยึดมั่นใจหลักการแรกที่คุยกันไว้คือ เราจะไม่มีการจัดโปรโมชั่น เพื่อส่งเสริมการขายเด็ดขาด เรายินดีที่จะไม่โด่งดังแบบใครๆก็พูดถึง แต่เรายินดีที่จะให้คนที่ซื้อกิน พอใจในรสชาติของเรา วัตถุดิบจึงเป็นสิ่งที่สำคัญไม่น้อยหน้าความใส่ใจในการอบ
เราใช้น้ำตาลจากอเมริกา ครีมชีสจากยุโรป เนยจากฝรั่งเศส เราไม่ใช่สินค้าจากฝั่งนิวซีแลนด์ เพราะเราเช็คส่วนประกอบสำคัญแล้ว มีบางอย่างที่ไม่ถูกใจเรา ซึ่งในครีมชีสและเนยเราได้ค้นพบกรรมวิธีบางอย่าง ที่ทำให้รสชาติถูกปากเรามากจนคิดว่าใช่แล้ว นี่คือสิ่งที่ตามหาอยู่ นอกจากนี้ ยังมีความเรื่องมากในด้านความสดของไข่ ที่เคยโพสไปบ่อยๆว่า ถ้าตอกออกมาไม่วุ้นสด เราคัดออกไปเจียวกิน ข้อดีคือ เราไม่เคยขาดสารอาหารเพราะไข่ไทย ความนิ่งเรื่องความสด มันมีปัจจัยแวดล้อมเยอะมากๆ แต่ละแบทเทอร์ เราจึงต้องตอกไข่ดูทีละฟอง ก่อนใส่ลงในชามผสม
สิ่งเหล่านี้สำหรับคนอื่นๆอาจมองว่าสิ้นเปลือง ประหลาด เสียเวลา แต่เราเลือกดินแดนนี้แล้ว เราก็มีหน้าที่ค่อยๆไถคราดกันไปทีละไร่ จึงต้องก้มหน้าก้มตาทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุด แล้วผลมันก็งอกงาม ลูกค้าหลายๆคนยังวนเวียนอุดหนุนกันเสมอตามวาระ
แล้วคิวก็เริ่มท้ายแถวยาวขึ้นเรื่อยๆ จนเราต้องนำระบบหลังบ้านมาใช้ เพื่อลดภาระทางการพูดคุยจัดระเบียบคิว การจ่าหน้า การคอนเฟิมตารางผลิต ด้วยความที่ว่าเราต้องการทุ่มเทเวลาให้การผลิตมากกว่าการจัดการ เราจึงจำเป็นต้องนำระบบเข้ามาช่วยพร้อมกติกาที่อาจจะต่างจากหลายๆที่ ซึ่งอย่างน้อยๆก็สามารถคัดกรองให้เหลือคนที่อยากกินของเราจริงๆมากกว่าสั่งเล่นสั่งทิ้ง
เราจึงไม่มี COD, ไม่สามารถให้เหลือกขนส่งได้, คอนเฟิมคิวจองด้วยการชำระเงินเต็มจำนวน โดยกำหนดเวลา deadline ให้และดูวันเวลาในสลิปเท่านั้น late คือต่อท้ายแถว เพราะเราดันคิวต่อไปขึ้นให้ทันที แต่ด้วยระบบที่เชื่อมถึงกันได้ดี เราก็สามารถพูดได้ว่า 99% คืออัตราการไม่มีคิวพลาดแบบเราจำวันส่งไม่ได้ จะมีก็แต่ทางเรา แจ้งกลับไปเตือนว่าถึงคิวส่งแล้ว เพราะบางทีนานจนคนสั่งลืมไปแล้ว ก็มีบ่อยครั้ง
จากการที่คุณเกี้ย เกี้ยแซ่บบ สั่งขนมไปรับประทานพร้อมถ่ายคลิปให้ รวมถึงการเปิดตัวทางเลือกสุขภาพในตลาดออนไลน์ศิษย์เก่าจุฬาเมื่อครั้งโควิด ss1 ทำให้เป็นช่วงเวลาที่เราต้องปรับระบบของเราครั้งใหญ๋ เพราะคิวมีทะลุไปถง 3เดือน 4เดือน พอตลาดวิ่งไปไกลเกินแค่คีโต คิวก็วิ่งไปแบบกู่ไม่กลับเสียแล้ว
หลายคนถามว่าทำไมเงียบๆ ก็ต้องตอบตามตรงว่า ไม่กล้ารับให้คิวมันออกไปมากจนเกินงามไปกว่านี้ และการไม่จับเฉพาะคนคีโตอย่างเดียว มันคลิกกับสินค้าและคาแรคเตอร์ของเรา เราเลยเลือกยืนบนดินแดนที่ห่างไกลจากคนคีโตแบบนี้ยังไงครับ
ขายเหมือนกันไม่เคยว่า แต่อย่าทำร้ายตลาด
อย่างที่บอกว่า “เขาว่า” คือสิ่งที่มนุษย์ชอบที่สุด ไม่ว่ามันจะจริงหรือเท็จเพียงใด การเรียกคนไปคุยหลังไมค์จึงทำให้ได้แต่ความสนุกสนานโดยไม่สามารถพิสูจน์ทราบความจริงได้เลย มีแต่การเออ ออ ห่อหมก กับคู่สนทนาเท่านั้น
ได้เล่าไปแล้วว่าการเริ่มต้นขนมคีโตของ keto easy เริ่มจากการที่คนอื่นนำสูตรแจกไปทำขายกันก่อนและทำกันมากมาย ดังนั้น เราจึงไม่ได้รุ้สึกอะไรและไม่มีความจำเป็นต้องไปตามหาว่าใครใช้สุตรเราด้วยซ้ำ เสียเวลาชีวิต ลำพังแค่ล้างพิมพ์ล้างเตาล้างอุปกรณ์ก็เหนื่อยจะแย่
สิ่งที่เห็นแล้วมักจะทนไม่ค่อยได้คือ การเริ่มต้นจะขายอะไรแบบที่รู้แก่ใจว่าเป็นของซ้ำตลาด แล้วเลือกการเปิดตัวที่ทำร้ายตลาด ด้วยการป่าวประกาศว่า “เคยแต่ซื้อกิน จนวันนึงมาทำเองแล้ว รู้ซึ้งเลยว่ากำไรขนาดไหน พอมาทำขายแล้วซื้อกินไม่ลงอีกเลย” ซึ่งเรามองว่าเข้าข่ายบ้างก็หลอกคนอื่น บ้างก็หลอกตัวเอง แค่สมมติว่าพูดถึงเรา เอาแค่เรื่องเนยก็คงไม่ลงลึกเหมือนเรา เอาแค่เรื่องครีมชีสก็ยิ่งคนละเรื่องไปใหญ่ ถ้าจะบอกว่า เห็นวัตถุดิบแล้วกินไม่ลง ก็ไม่แน่ใจว่าจะพูดถึงเราได้แบบนั้นจริงๆหรือ แล้วถ้าพูดถึงแบรนด์อื่นๆ อันนี้ยิ่งไม่สง่าผ่าเผยใหญ่เลย เพราะเป็นคนเสียงดังกว่าเขา ยังพูดเอาดีเข้าตัวแบบนี้ ก็ได้แต่อวยพรไปให้มีดีให้ตลอดรอดฝั่ง เพราะสุดท้ายแล้ว กาลเวลาก็จะพิสูจน์คนอยู่เช่นเดิม
อะไรที่มันเที่ยงแท้ เขาจึงใช้คำว่าสัจธรรม
ขอให้คนใหม่ๆที่จะเข้ามาในตลาดคีโต เข้ามาด้วยมโนธรรมกันนะครับ อย่าเริ่มต้นเข้ามาด้วยการทำร้ายตลาด สมัยนี้ไม่มีใครโบราณคร่ำครึพอที่จะมานั่งหวงสินค้า โกรธการขายซ้ำกันแล้วครับ ประวัติศาสตร์ที่เล่าให้ฟังนี่ไม่ได้เอาสะใจ แต่อยากให้ศึกษาไว้เพราะเชื่อว่าชัดเจนจนพอจะประติดประต่อกันได้เอง
ขอให้เรีนรู้ไว้แล้วจำแนกให้ชัดเจนว่าอะไรควรเอาเยี่ยง อะไรไม่ควรเอาอยาง ครับ
ทุกๆการเรียนประวัติศาสตร์ก็เพื่อรู้ว่าเรามีความเป็นมาอย่างไร แล้วจะทำอะไรไม่ให้ผิดซ้ำซาก
บ้างก็หลอกคนอื่น บ้างก็หลอกตัวเอง คือสิ่งที่พบมากเลยในสังคมคีโตที่ผ่านมาก มันทำให้เราเรียนรู้และมองเห็นอะไรได้หลายๆอย่างครับ ไม่ว่าจะ เทรนเนอร์การกินคีโตแบบไม่ได้รู้เรื่องคีโต, กลุ่มเทรนคีโตแบบยึดติด สมการบิดเบี้ยว นมไม่ได้วิปได้, ได้เห็นคนผอมจากไดเอทอื่น แล้วแวะมาชุบตัวด้วยคีโตซัก1ปี ให้มีสังคมแล้วประกาศว่าผอมด้วยคีโต, ได้เห็นคนไม่รู้เรื่องคีโตใส่วัตถุดิบมั่วๆในขนมคีโต, ได้เห็นคนที่รู้เรื่องคีโตระดับสอนคนได้ จงใจใส่ตารางโภชนาการผิดเพี้ยน เพื่อให้ขนมดูดี
ได้เห็นอะไรมากมายก่ายกองในระยะเวลาที่ผ่านมา
คำถามคือ เราจะทำอะไรกับสังคมคีโตได้อีกไหม
ก้าวต่อไปของ keto easy
อย่างที่บอกครับ คำว่าผ่านอะไรมาเยอะ มันจะมีความหมายเมื่อมันผ่านมาเยอะจริงๆ แล้วมันก็บ่งบอกได้ชัดเจนว่า ดินแดนของคีโต มันก็ไม่ได้ต่างกับดินแดนอื่นๆในสังคม ที่มีทั้งธุรกิจ มีจิตอิสระ มีจิตไม่อิสระ และอื่นๆอีกมากมาย มันผ่านยุคความสวยงามแห่งวิชาการมาแล้ว และกลุ่มก้อนมนุษย์ก็ blend มวลรวมกลับเข้าสู่ความเป็นมนุษย์อยู่ดี
นี่ก็ถือเป็นบันทึกหลักไมล์ ในระยะ5ปี ก่อนเข้าปีที่6 ขอให้มองเป็นการจารึกของเฮียโต้ง ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในมุมการมองเห็นของ keto easy ซึ่งไม่สามารถนับรวมเป็นประวัติศาสตร์คีโตไทยได้อย่างเต็มรูปแบบ (ถ้าจะเอาอย่างนั้น ผ่านมุมมองของเฮียโต้งเองเน้นๆ ครบองศากว่า 5555)
อนาคตของ keto easy ก็คงต้องดูกันต่อไปครับว่าจะไปในทิศทางไหน
เริ่มจากลดกำลังผลิตชีสเค้ก ตามที่บอกไว้เมื่อ 2ปีที่แล้วดีไหมนะ????
ปิดท้ายด้วยประมวลรูปของ อโวคาดี้ ผมว่ามันมีชีวิตนะ