fbpx

น้ำแร่ แน่เหรอ

เรื่องน้ำดื่มนั้น ตอนนี้เราน่าจะแบ่งเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆได้คือ น้ำดื่มทั่วไป และ น้ำแร่

คำถามคือ เราเริ่มซื้อน้ำกินตั้งแต่เมื่อไหร่ 

ถ้าตอบแบบไม่ต้องท่องจำวันเวลา ก็ต้องตอบว่า ตั้งแต่มีระบบการประปา นั่นละครับ ระบบการประปามีมาทดแทนระบบน้ำในสมัยก่อน ที่ต้องไปตักจากลำธาร บึง หนอง ก็เริ่มมีการต่อท่อไม้ไผ่มาในหมู่บ้าน หรือ มีการขุดพบน้ำใต้ดินขึ้นมา

จนมีการพัฒนาความเป็นอยู่มาจบที่ระบบประปาในที่สุด ซึ่งในประเทศผู้เจริญแล้ว มีการผลิตน้ำประปาแบบสามารถดื่มจากก๊อกได้เลย เรียกว่า tap water ชัดเลยคือ อเมริกา ญี่ปุ่น ส่วนประเทศโลกที่3 แม้จะพยายามบอกว่า ปาป้า ดื่มได้ เอารัฐมนตรีมาจิบแบบแหยงๆให้เราดู เราก็ยังไม่มั่นใจพอที่จะดื่ม

ในสมัยก่อนเราก็เลยมีการต้มน้ำกรอกใส่ขวดก่อนจะนำมาดื่ม

ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็สามารถสรุปรวบยอดได้ว่า ระบบประปาของโลกนี้ ทำให้เราสามารถใช้น้ำที่สะดวกสบาย และมีมาตรฐานเท่าเทียมกันพอสมควรในแต่ละพื้นที่ เรียกว่าสะอาดกว่าแหล่งน้ำ “บางที่” แหละ แต่ส่วนใหญ่ถ้าเป็นน้ำใต้ดินลึกๆหรือน้ำพุ นั่นธรรมชาติได้ทำการกรองแบบมหาโหด มาให้เราแล้ว ต่างกับการตักดื่มจากห้วย หนอง คลอง บึง

ทีนี้น้ำแร่เกิดมาตอนไหน มันมีตั้งแต่เราเริ่มดื่มน้ำจากแหล่งธรรมชาติแล้ว แต่การบรรจุขวดขายมันเกิดมาในช่วงที่ประปามีบนโลกนี้ เอเวียง น่าจะเป็นเจ้าแรกๆ ที่บรรจุขวดมาขายในต่างประเทศ เอาจริงๆดูในรายการ #บอกเล่า90บวก1 ตอน สงครามน้ำขวด ละเอียดกว่าเยอะ ดูเหอะนะ ตอนทำมันเหนื่อย 55555 https://youtu.be/L2OKv0HVO6A?si=-Gs9kjscpXzqja0k 

ในตอนแรกที่ทำเขาก็ไม่ได้ว่าจะมาเพื่อสร้างความเทพกว่าอะไร มาเป็นแค่ทางเลือก มีขายในร้านขายยา ซึ่งสมัยนั้น ราวๆ 1960 ร้านยาเป็นแหล่งแกดเจท อัพเกรดนั่นนี่ เพื่อเอาเงินอยู่แล้ว) ซึ่งตอนแรกที่มาทำตลาดในอเมริกา มันก็ไม่สำเร็จเพราะคนอเมริกานิยมโค้ก ที่เพิ่งมีบนโลกเหมือนกัน และพวกเค้าคิดว่าน้ำเปล่า กินจากก๊อกก็ได้จะซื้อทำบ้าอะไร

จนกระทั่งเพอริเอ้ มาทำการตลาดหนักๆ เน้นหรูๆ เป็นสปอนเซอร์ให้งานมาราธอนงานใหญ่ ประกอบกับกระแสสุขภาพเริ่มมีการทำตลาดในอเมริกาด้วยเช่นกัน สินค้าสุขภาพในตอนนั้น ทำเงินได้มากมหาศาล และเพอริเอ้เอง นอกจากจะชูภาพลักษณ์ที่หรูหราแล้ว ยังชูความสุขภาพกับเขาด้วย โดยเฉพาะการทำตัวเป็น mixer 0แคล เอาไปตีตลาดกับไดเอทโค้ก ที่คนนิยมผสมเหล้ากิน เน้นว่าซ่าด้วย 0แคลด้วย มีแร่ธาตุสุขภาพด้วย คนก็เลยแห่กันไปซื้อมาถืออวด เพื่อความดูรวย ดูรักษาสุขภาพ 

ที่มันทำได้ก็เพราะ เพอริเอ้ ได้นาย บรูซ เนวินส์ ผู้ที่ทำการตลาดให้ยีนส์กรรมกรอย่างลีวายส์ กลายเป็นกางเกงสุดเท่ ที่ดีไซน์เนอร์ให้การยอมรับในแบรนด์นั้นไปเฉยเลย แล้วจะแปลกอะไร กับน้ำแร่ใส่ขวดอย่าง เพอริเอ้ ??? ไม่ยากเลยที่จะทำให้คนทั้งโลกรู้สึกว่า น้ำแร่ คือน้ำที่อัพเกรดทุกอย่างในชีวิต ตั้งแต่สุขภาพ ไลฟ์สไตล์ รวมถึงเป็นน้ำที่ดีกว่าน้ำใดๆในโลก ตามที่ บรูซ เนวินส์ บอกให้คนทั้งโลกเชื่อตามเขา

หลังจากเพอริเอ้ ทำสำเร็จ กอบรายได้จากแค่6แสนเหรียญ ไปเป็น 60ล้านเหรียญได้ภายใน 3 ปี ทีนี้ตลาดน้ำแร่ ก็มีผู้เล่นแห่กันเข้ามาตักตวงเงินก้อนใหญ่อีกก้อนบนโลกนี้ วิจัยต่างๆประดังประดาเข้ามาทำให้มนุษย์โลกเชื่อว่า เขาต้องดื่มน้ำแร่ จึงจะมีสุขภาพที่ดีกว่าการดื่มน้ำประปา 

แถมกลุ่มรักษ์โลก ยังมาช่วยโจมตีน้ำธรรมชาติด้วยอีกตีน ว่ายาฆ่าแมลง สารพิษต่างๆบนโลก มันลงไปในน้ำหมดแล้วแก แกจะดื่มน้ำยาฆ่าแมลงเหรอ 

คนที่เอาเท้าก่ายหน้าผาก ก็คงจะมีแต่ ชาวประปา  นั่นหละครับ อยู่ดีๆ KPI ก็รวนไปหมด

จากนั้นปี 1993 ปีที่โลกเริ่มรู้ทันว่า น้ำตาล แม่งทำให้อ้วน ยิ่งทำให้กระแสสุขภาพ กระแสน้ำแร่ พุ่งกระฉูดไปใหญ่ มีกระทั่งน้ำสำหรับน้อลหมา น้อลแมว คนแม่งก็ซื้อกันเช่นเคย 

ในเวลานั้น นอกจากน้ำแร่แล้ว เจ้าที่ไปจองแหล่งน้ำธรรมชาติไม่ทัน หรือจองไม่ไหว ก็มาจัดน้ำเปล่าลงขวดขายกัน โดยการใช้กระบวนการเอาน้ำประปามากรองเพิ่มให้ โดยการโฆษณาว่าบริสุทธิ์สัดๆ เชื้อโรคหายม๊ด เอาจริงๆคือ หายม๊ดทุกอย่าง แร่ดีก็หายแร่ร้ายก็ตุย แล้วยังเอาไปผ่านโอโซนเพื่อความไฮโซอี๊ก เพราะคำว่าโอโซน กลุ่มรักษ์โลก ปูทางไว้ให้แล้ว ว่ามันดี เขาก็ยัดความดีที่เรารู้สึกไปเองมาใส่ขวดเพื่อขายเราอีกที เรียกว่ากระบวนการ รีเวิร์ส ออสโมซิส หรือ RO พอจะคุ้นกันแล้วไหมครับ 

ตอนนี้น้ำดื่มก็ลงขวดมา 2แบบแล้วคือ น้ำแร่ กับ น้ำประปากรองแล้วกรองอีก แล้วกลุ่มรักษ์โลก ก็รวมกันกระทืบน้ำประปาต่ออีกยกใหญ่ ด้วยการจัดคอนเทนท์ในตำนาน ที่เหยียบน้ำประปาจมดิน นั่นคือ Top 13 States with the worst public water ratings in the US และ 13 reasons why you shouldn’t drink tap water แหม่ อินฟลูระดับนี้ลงคอนเทนท์แบบนี้ ทำให้คนอเมริกาเป็นบ้าในทันที นักธุรกิจก็ตอบรับในทันที เข็นโปรเจคที่ทำรอไว้แล้ว ออกมาช้อนตลาดทันควัน ไม่ว่าจะเป็นน้ำผสมวิตามิน ผสมแร่ธาตุ ผสมโน่นนี่นั่น ตามแต่ตลาดจะยินดีจ่าย

แถมปี 2000 สธ.อเมริกา ก็ประกาศปริมาณน้ำดื่มที่ประชาชนควรดื่มในแต่ละวันออกมาอีก ทำให้มูลค่าตลาดน้ำขวดบนโลกนี้ติดจรวดไปอยู่ที่ หกหมื่นเจ็ดพันล้านเหรียญ (67 billion$) 

เป็นการเอาของฟรีๆบนโลกนี้ มาใส่ขวดขายได้มีมูลค่าดีที่สุดในโลกอย่างนึงเลยเชียว

ในเรื่องของน้ำแร่ในปัจจุบันนั้น ยังมีอีกกิ่งนึงที่ทำตลาดและราคาได้ดีกว่าแค่สุขภาพคือ อาติซาน (Artisan) อีกแล้วครับ คือ มีการจำแนกน้ำแร่ที่เหมาะกับอาหารในแต่ละประเภท ในร้านอาหารระดับดีๆ จะมีตัวเลือกเรื่องน้ำที่จะแพริ่ง (pairing) กับอาหารด้วย เช่น อาหารประเภทหอยนางรม จะแพร์กับน้ำแร่ที่เบาซ่ามีแร่น้อยๆ เพราะในหอยมีมากแล้ว เป็นต้น

ดังนั้นถ้าจะถามว่า น้ำแร่ จำเป็นต้องดื่มไหมเพื่อให้สุขภาพดี ผมว่าเท่าที่เล่าความเป็นมาของมัน ก็น่าจะพอตอบได้แล้วว่า คำถามที่เกิดขึ้น มันมาจากการวางตลาดตั้งแต่สมัยก่อนทำให้ชุดความคิดนี้มันติดหนึบในสมองคนแต่ละรุ่น และสอนต่อๆกันมานั่นหละครับ

วัตถุประสงค์ของการดื่มน้ำ มันคือนอกจาก H2O แล้วมันก็ต้องการแร่ธาตุตามธรรมชาติอยู่แล้ว น้ำธรรมชาติก็มีอยู่แล้ว แต่ด้วยสภาพแวดล้อมปัจจุบัน หลายคนอาจอยู่ในแหล่งน้ำที่ไม่ดีงามพอที่จะไปตักมาดื่มทันที งานประปาก็มีการทำความสะอาดให้ประมาณนึง ประมาณที่ในเกณฑ์ดีพอ พอที่จะกลับไปต้มกรอกขวดเอง พอที่จะเอาไปผ่านเครื่องกรองเอาความสกปรกออกเองที่บ้าน (ในกรณีเชื่อในระบบผลิตประปา แต่ไม่เชื่อในระบบการจัดซื้อจัดจ้างท่อประปารวมถึงความมืออาชีพในการวางแนวท่อประปา) 

ระบบน้ำที่ส่งมาที่บ้านก็มีแร่ธาตุที่ดีพอที่จะใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำแร่เท่านั้น จึงจะทำให้สุขภาพดี

กลับกัน ที่ไม่ควรดื่มเลยคือน้ำระบบ RO ต่างหาก เพราะมันไม่มีเหี้ยอะไรเลยครับ เปลืองท้องมากๆ แถมลองไปส่องฉลากดู วิชา #ฉลาก3รู้ ที่สอนไปจะทำให้เราเห็นว่า น้ำขวดในร้านสะดวกซื้อนั้น ร่วม90% แม่งเป็นน้ำ RO ครับ มันเลยกลายเป็นส่งต่อความดีความชอบให้น้ำแร่ไปโดยปริยาย เพราะในตู้นั้นสวยอยู่คนเดียว 

แต่มันราคาสูง เกินกว่าจะเป็น everyday water สำหรับหลายๆคน แล้วถ้าไอ้หลายๆคนนั้นดันไม่เชื่ออีกว่า น้ำต้มเองกรองเองมันก็ดีพอ คือเกิดมามึงจะซื้อแดกอย่างเดียว ก็มีทางออกให้ครับ เอาน้ำ RO พวกนั้นมาทำสิ่งที่เรียกว่า คืนธรรมชาติสู่สายน้ำ ถ้าคนผลิตแม่งกรองทิ้งหมด เราก็ใส่กลับคืนเข้าไป ใส่เกลือเพิ่มเอา เกลือทะเลก็ได้ เกลือชมพูก็ดีถ้ามีเงินพอไม่ต้องไปกู้มาซื้อ เพราะเกลือคือของที่ค้างบนโลกหลังจากพระอาทิตย์เผาซะน้ำหายหมดบ๋อต๋อ 

ส่วนจะใส่แค่ไหน ตอบได้สั้นๆว่า “ไม่รู้ครับ” คือพวกนี้มัน depend on อ่ะ ตั้งแต่น้ำหนักตัว ไลฟ์ไตล์เต้นแร้งเต้นกามากไหม อากาศวันนั้นร้อนไหม อื่นๆอีกมากมาย ทำให้แต่ละคนสูญเสียแร่ธาตุไม่เท่ากัน ปริมาณแร่ที่ต้องการกลับคืนร่างกายก็เลยไม่เท่ากัน 

ดังนั้น ถ้าไม่เชื่อใจน้ำกรอง ก็ต้องไปเติมเอาเอง ไปดูชีวิตตัวเองครับ ถ้ายังมึนๆก่งก๊ง ก็เติมเพิ่ม ถึงจุดที่สดชื่นก็จดไว้ว่าประมาณเท่าไหร่ จำเอาของแต่ละคนเอาเอง แล้วแต่ละวันก็ดูตัวเองว่าจะบวก หรือ ลบ ไปจากค่า par ที่เคยจดไว้ 

คำถามคือ อยากรู้เรื่องน้ำแร่ ก็ได้เล่าให้อ่านกันแล้วนะครับ เรื่องราวของน้ำแร่ พร้อมทั้งดักคำตอบให้แล้ว ว่าตกลงยังไง น้ำแร่แน่เหรอ คิดย้อนกำเนิดของมัน รวมกับตั้งคำถามตัวเองว่า เราดื่มน้ำเพื่ออะไร เอาเหตุและผลของการดื่มน้ำ ไปปฎิบัติ ก็จะได้แนวทางการใช้ชีวิตครับ ในโลกนี้ไม่มีของกินอะไรเทพไปจนขนาดว่า เราต้องไปขวนขวายมัน นอกถิ่นแผ่นดินเกิดครับ ทุกประเทศสืบพันธุ์กันมาหลายชั่วอายุคนแล้ว ของกินพื้นดินแดนเกิด มันทำให้เรามีชีวิตและสุขภาพดีได้ครับ 

แค่ฉลาดเลือกและใช้ชีวิตให้ดี Choose wisely, live well

แถมให้ครับ งานอดิเรกผมคือ เก็บ list ฉลากน้ำแร่ ว่าแต่ละยี่ห้อมีอะไรบ้าง คือทั้งดีทั้งห่วย เก็บหมดครับ เข้าไปดูกันได้ถ้าอยากดื่มกัน มันก็น้ำอ่ะครับ 

อยากเข้าไปดูก็เชิญในลิงค์นี้ครับ มาพร้อมวาร์ปสั่งซื้อเช่นเคย 5555
https://siripun.com/2024/04/22/mineral-water/

และนอกจากเรื่องการตลาดที่ว่าแล้ว มีอีกสาเหตุนึงที่ฝั่งอเมริกา ยอดขายน้ำขวดสูงมากๆ นั่นคือ การตีแผ่ความจริงของการใส่ “ฟลูออไรด์” ลงในแหล่งน้ำ อ้าว…มันดีไม่ใช่เหรอ ฟันแข็งแรง

เรื่องนี้ มันงอกได้อีก ep นะสิครับ 

#pirateketo

#siamstr

โต้งเอง บุคคลที่พยายามเล่าเรื่องที่คนไม่รู้เรื่อง ให้รู้เรื่อง แม้บางทีคนที่อยากให้รู้เรื่อง จะอ่าน/ฟังแล้วไม่รู้เรื่องก็ตาม