ทำไมนะ ในเนื้อสัตว์ถึงยังมีคาร์บได้

July 3, 2021

ทำไมนะ ในเนื้อสัตว์ถึงยังมีคาร์บได้

คงเคยได้ยินกันมาบ้าง กับคำถามที่ว่า ทำไมเนื้อปลา หอย ่ตับ เครื่องใน หรือเนื้อสัตว์หลายๆประเภทถึงมีคาร์บใช่ไหมครับ เพราะเราเคยได้ยินมาว่า เนื้อสัตว์ไม่มีคาร์บไม่ใช่หรือ อย่างหอยแมลงภู่ไทย คาร์บประมาณ 3-4% เรียกว่า 100กรัม มีคาร์บประมาณ 4กรัม

ผมลองค้นๆดูนะครับ พอจะสรุปแบบง่ายๆ คือให้ลองมองภาพแบบนี้นะครับ โดยปกติเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อนั้น จะมีสิ่งที่เรียกว่า ไกลโคเจน เราก็เคยได้ยินกันมาแล้วแหละว่า ถ้าเรากินคาร์บมาก มันก็จะไปสะสมที่กล้ามเนื้อในรูปแบบของไกลโคลเจน จำกันใช่ไหมครับ คีโตพุดกันบ่อยๆเลย

ที่นี้พอมองคำว่า ไกลโคเจนในกล้ามเนื้อ เราก็ลองมาตั้งคำถามดูเป็นสมมติฐานว่า
“ถ้ากล้ามเนื้อของมนุษย์ มีไกลโคเจนแล้วววว ทำไมกล้ามเนื้อของสัตว์อื่นๆ ถึงไม่มีคาร์โบไฮเดรตสะสมในรูปแบบของ ไกลโคเจน กับเขาบ้าง? เอ้อ”

จริงอยู่ครับ ที่ว่าเวลาเราค้นในกูเกิ้ลนั้น ฐานข้อมูลทางโภชนาการเกือบทั้งหมด แสดงให้เห็นว่า เนื้อสัตว์ไม่มีคาร์โบไฮเดรต แต่ถ้าดูจากหลายๆที่จริงๆมันจะมีบางแหล่งข้อมูลที่ละเอียดมากๆ เค้าจะบอกว่า มันก็มีครับ มากหรือน้อยมันก็ยังมีบ้าง ตามประเภทของเนื้อนั้นๆอีกที

คำตอบของเรื่องนี้อยู่ที่คำว่า Rigor mortis

Rigor mortis คือสภาวะการหดตัวหดเกร็งของกล้ามเนื้อ คือเวลาที่ร่างกายสิ่งมีชีวิตตายลง กล้ามเนื้อจะเกิดการหดเกร็งอย่างมาก ตั้งแต่ไม่กี่นาทีไปจนถึงหลายชั่วโมงหลังการตาย แล้วไอ้สภาวะนี่แหละครับ ที่เกิดการ ดึงเอาไกลโคเจน ที่มีอยู่มาใช้จนเกือบหมด ทำให้แทบจะไม่เหลือคาร์บในเนื้อแล้วนั่นเองครับ

แต่ แต่ แต่
ก็ยังคงมีสัตว์บางจำพวกที่ ยังคงมีคาร์บเหลืออยู่บ้าง เช่นสัตว์จำพวกหอย ไม่ว่าจะเป็นหอยนางรม หอยแมลงภู่ หรือหมึกทะเล ปลิง ปลาบางจำพวก หรือแม้แต่ ตับ เครื่องในของสัตว์บางชนิด อาจจะไม่เกิดปฎิกิริยา Rigor mortis หรือเกิดแหละแต่ใช้ไกโคลเจนไม่หมด ก็เป็นได้

แต่ว่ากันจริงๆแล้ว คนที่กินคีโต ไม่ต้องซีเรียสกับคาร์บตรงนั้นก็ได้นะครับ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับสารอาหาร แร่ธาตุ วิตามิน ต่างๆที่ได้จากเนื้อสัตว์หรือเครื่องในแล้วเนี่ย มันมีประโยชน์ต่อร่างกายมากเลยครับ มันคุ้มค่าที่จะแลกกับโควต้าคาร์บ ถือเป้นคาร์บแลกคุ้มได้นะครับ ดีกว่ากินขนมคุณภาพแย่ๆคำนวนสารอาหารผิดๆเสียอีก

อ่อ สำหรับเรื่อง Rigor mortis นั้นหลายๆคนอาจคุ้นเคยกันมาแล้ว แค่ไม่เคยพูดถึงคำนี้กันเฉยๆ รู้จักเนื้อดรายเอจใช่ไหมครับ การดรายเอจนั้น คือการปล่อยให้เนื้อคลายตัวจากภาวะหดเกร็งดังกล่าว ส่งผลให้เนื้อมีความนุ่มอร่อยยิ่งขึ้นนั่นเองครับ ดังนั้น Rigor mortis ก็เลยไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรเลย คนทำเนื้อเขารู้จักอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ

สุดท้ายแล้ว ก็อย่างที่ใครๆบอกกันครับ ว่า คาร์บที่เราควรเลี่ยงมากๆเลยก็คือ พวก Refined Carbs พวกนี้ต่างหากที่เป็นตัวทำลายสุขภาพหนักเลย ส่วนตัวผมยังคงมองว่า คาร์บจากอาหารที่เป็นอาหารจริงๆมันเป็น คาร์บแลกคุ้มนะครับ เพราะมากับสารอาหารที่ดีมากมาย

ส่วนใครที่เป็นสายที่ยึดถือว่า เห้ย คาร์บคือคาร์บ จะยังไงก็คือคาร์บ ผมก็พอจะบอกได้คำเดิมครับ ว่าปริมาณสำคัญกว่าประเภท ถ้าคุณกังวลคาร์บในเนื้อสัตว์ คุณก็จำกัดปริมาณเอา แล้วก็ลองมองที่สารอาหารว่า ถ้าระหว่างที่คุณได้วิตามินมากมายจากตับแต่เสียโควต้าคาร์บไป กับ ยอมไม่กินตับ เพื่อที่จะเอาโควต้าคาร์บไปลงกับขนมคีโตแสนอร่อย คุณเป็นคนเลือกเองว่าสิ่งไหนคือสิ่งที่คุณต้องการ ง่ายๆเลยครับ บางทีคุณอาจไม่ต้องเลือกเลยก็ได้ แค่สลับการกินให้หลากหลาย

บทความของเฮียทั้งหมด ไม่เคยอยู่บนพื้นฐานของการกลัวคาร์บ แต่เฮียถือว่ามีหน้าที่ค้นคว้าหาความรู้แล้วเอามาแชร์กัน ผิดถูกก็ว่ากัน แต่ไม่ควรหลอกตัวเองด้วยการปัดเศษลง ถ้ามันมีคาร์บเราก็ควรรู้ว่ามันมี จะมากจะน้อยถ้ามีก็คือมี ใครก็ตามที่แชร์ความรู้ให้คนอ่าน จะ 0.9กรัมคาร์บ ก็ต้องบอกว่ามี 0.9กรัม คนพวกเดียวที่มีหน้าที่ปัดเศษลงจาก 0.9กรัม เป็น 0 กรัม คือคนที่ขายของด้วยเล่ห์กลแห่งตัวเลข ที่เราพบมากเหลือเกินในโลกที่ทำลายสุขภาพเรา ไม่ว่าจะ 0.5แคล ปัดเป็น0แคล น้ำตาล0.5กรัม ปัดเป็นน้ำตาล 0

เอาจริงๆถ้าเป็นอาหารจริงๆ real food แล้วนั้น เราไม่ต้องกลัวคาร์บจากที่ไหนเลย เพียงแค่รู้ เข้าใจ ว่ามันมีอยู่แล้วกินในปริมาณที่เหมาะสม เว้นแต่ว่า ถ้าคุณกินหอยแมลงภู่ 1-2กิโล ในวันเดียว คุณอาจจะต้องปรับพื้นฐาน mind set การกินอาหารของคุณใหม่ตั้งแต่ต้น อย่างที่บอกเสมอๆครับว่า ไม่ว่าสิ่งใดในโลกไดเอ็ทล้วนอยู่ภายใต้คำว่า moderate ครับ อย่าคาดหวังอะไรที่กินได้ไม่อั้น โลกนี้ไม่มีอะไรไม่อั้นหรอก การตามหาของกินไม่อั้นมันคือการไม่รู้จักปรับนิสัยการกิน

ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณหยุดไดเอ็ท หายนะจากการกินไม่ยั้งก็จะกลับมาทันที เพราะคุณยังไม่ได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมพื้นฐานในตัวคุณเลย อย่าลืมนะครับว่า ไดเอ็ทเป็นเพียงแค่เครื่องมือที่คุณใช้ในการกำหนดการกินเฉยๆ สิ่งที่จะทำให้คุณสุขภาพดีอย่างถาวรได้คือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและทรรศนคติต่อการกิน ให้มีสติ รู้จักความพอดีในปริมาณ และสารอาหารตามที่ร่างกายต้องการ เมื่อสุขภาพดี รูปร่างก็จะดีตาม ตลอดไปครับ

สุดท้ายของสุดท้ายนะ มันก็แค่เรื่องของกินแหละนาย 5555