โอเค ขออภัยที่ทำให้นอยด์กันไปเรื่องน้ำมันมะกอก แต่ต้องบอกตามตรงว่า การเลี่ยงบาลี เพื่อสร้างความชอบธรรม ในการเขียนฉลากว่า extra virgin olive oil มันมีจริงๆบนโลกนี้ และทำได้อย่างถูกกฎหมายเสียด้วย
ดังนั้นก็เช่นกับสินค้าอุตสาหกรรมอื่นๆหนะครับ บอกแล้วในโพสก่อนว่า evoo ยังไงเสียมันก็เป็น industrial processed food นิดนึง แค่มันไม่ได้ก้าวไประดับ ultra processed อะครับ ในเมื่อเป็นสินค้าอุตสาหกรรม เราก็ต้องป้องกันตัวเอง “วิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด” จำได้ไหมครับ บอกไว้เมื่อปลายปี
วิธีบ้านๆที่สุด แม้จะฟันธงไม่ได้ 100% แต่มันก็สามารถทำให้เราเอะใจได้ นั่นคือ สืบจากศพ
ด้วยการเอาไปแช่ตู้เย็น เพื่อดูว่ามีไขหรือไม่ ถ้าเป็น evoo จะต้องเป็นไขทั้งหมดครับ ส่วนเหลวที่เหลือก็ไปภาวนาเอาว่า เป็นแค่ olive oil หรือ คาโนลา เพื่อนรัก 5555
โอเค อ่านจบแล้วเอาไปแช่ตู้เย็นสักคืนแล้วถ่ายรูปมาเม้นท์กันครับ ว่าน้ำมันมะกอกในบ้านคุณเป็นยังไงบ้าง
เรื่องนี้เคยพูดใน #บอกเล่า90บวก1 ep น้ำมันมะกอก https://youtu.be/pdMrQqG3qnI?si=7jmlm5nks84Cq50O
เอาจริงๆนะ ก่อนจะซื้อถ้าปรากฎว่า
- ราคาถูก
- มีโปร 1แถม1
- ไม่บอกวันที่ผลิต
- ไม่บอกแหล่งผลิต
- มีคำว่า pure, 100% หรือ คำเรียกประหลาดๆ
- ขวดใสกิ๊ง
ค่อนข้างจะสกรีนได้เบื้องต้นว่า โดนแน่ๆ 555
เพราะ evoo มันมีกระบวนการเฉพาะที่ควรเป็นครับ โดยเฉพาะการเก็บเกี่ยวและผลิต ธรรมชาติของมันจะเก็บเกี่ยวและผลิตแทบ ทันที เพื่อรักษาสภาพให้ดีเยี่ยม ไม่รอให้มะกอกหลุดจากต้นนาน เผลอๆบางเจ้าปลูกเองเพื่อคัดลูกที่ดีจริง ไม่ช้ำด้วยซ้ำ
ส่วนใหญ่มักจะเก็บเกี่ยวช่วง พย ธค มค (ส่วนน้ำมันมะกอกแบบ early harvest มักจะเก็บเกี่ยวช่วง ตค พย) ดังนั้นการได้ของนอกฤดูกาล หลายๆคนอาจคิดว่าดี เทคโนโลยีทำได้ อันนั้นตามพี่สบายใจครับ ผมมันคนรุ่นเก่า
และผู้ผลิตเขาจะภูมิใจในการอวด ในการประกาศ ความเจ๋งของเขา เพราะกว่าจะบดโม่หินได้มาแต่ละหยด มันคลาสสิกเกินกว่าที่จะเอามาเร่ขายถูกๆ 1แถม1 เขาจะดูแลมันตั้งแต่ผลิตไปจนส่งมอบ ขวดบรรจุจะเป็นขวดที่ป้องกันแสงอาทิตย์
เหมือนไวน์เลยอะครับ ผมถึงบอกว่าพวกนี้เป็นงาน อาติซาน (Artisan) ซึ่งมันต้องละเอียดละออกับทุกขั้นตอน จะกินทั้งทีอยากให้เรามาดื่มด่ำกับมัน ละเมียดละไม อ่านฉลาก ค้นเรื่องราวของขวดนั้นๆ เหมือนกับโพสก่อนหน้านี้ ที่ผมบบอกว่า กลุ่ม1 คือ ดื่มเอารสนิยม มันเป็นศิลปะอย่างนึงครับ อาติซาน มาจาก ภาษาละติน artītus (แปลว่าทักษะ หรือ skill) หรือ Skilled manual work นั่นเองครับ ในทางอาหารเขาถึงมีคำว่า “ศิลปะการทำอาหาร” ซึ่งเป็นการยกระดับความ barbarian food ซึ่งธรรมชาติเสียจนโคตรดิบ เถื่อน
ถึงผมจะเป็นคนนิยมอาหารธรรมชาติ แต่ผมก็อยู่สายอาหาร และการนำศิลปะแห่งอาหาร มาควบรวมกับการใช้วัตถุดิบธรรมชาติอย่างเคารพรสชาติ มันคือการสืบทอดศิลปะแขนงนี้ครับ เพียงแค่ทุกวันนี้ มันเลยเถิดไปจนไปทำแค่เปลือก ดูแต่ความสวยงาม จนลืมรากเหง้าของ แก่นและกระพี้ ของศิลปะแขนงนี้ไปครับ “ศิลปะการทำอาหารธรรมชาติ”
ค่อยๆเรียนรู้ไป ดีกว่ากระดกตามชาวบ้านเค้าแบบไม่สนใจ สี่สนใจแปด อะไรเลยครับ
