เคลียร์ใจก่อน : บทความนี้ไม่มีเจตนาโจมตีแบรนด์สินค้าใดๆ แต่เป็นการพูดถึงสารอาหารตามความจริงบนฉลาก เพื่อให้ผู้บริโภคได้ตระหนักถึงสิ่งที่เลือกรับประทาน เฮียเชื่อว่าตลาดโอ้ตก็มีตลาดของมัน และตัวโอ้ตเองก็ไม่ใช่ยาพิษ ที่จะกินแล้วตายในทันใด เพียงแค่อาหารทุกชนิดหากกินมากเกินไปก็จะเกิดการสะสมในรูปแบบต่างๆ ดังนั้นจึงเป็นความรู้ที่ผู้รักสุขภาพควรศึกษาไว้
ตลาดตัวแทน หรือภาษาฝรั่งเรียก affiliate ถือว่าเป็นอีกอาชีพนึงในยุคหลังนี้ และเราคงต้องยอมรับไปแล้วว่า ตลาดการเร่งขายการพยายามเรียกความสนใจให้ลูกค้าต้องการซื้อ บางครั้งมันก็แลกมาด้วยความเคลือบแคลง และการเลือกนำเสนอแต่ในมุมที่ too good to be true ในหลายๆโอกาส
ข้าวโอ้ตเต็มเมล็ดก็เป็นอีกหนึ่งสินค้า ที่ตอนนี้กำลังโหมกระหน่ำให้ชาว aff ทำคลิปโปรโมทกันระดับ talk of the town จนทำให้เพื่อนๆสายสุขภาพโดยเฉพาะฝั่งโลว์คาร์บ ถึงกับระทวยในความดีเด่นของมัน จากการที่นั่งไถ tiktok
นี่ยังไม่รวมบุญเก่า ที่โลกของ FIAT ได้ประเคนความดีเลิศประเสริฐศรีให้กับโอ้ตมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เพราะมันล้นตลาดจะตายอยู่แล้ว นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ inbox ของเฮีย บวมไปด้วยโอ้ต อ่ะมาว่ากันเลย
เราจะข้ามพวก over claim ต่างๆออกไปเลยนะครับ ไม่ว่าจะพวกวิตามินบี วิตามินโน่นนี่ แร่ธาตุนั่นนี่ เราถือว่ามันเป็นจุดเล็กๆ เพราะสารอาหารจากพืชยังไงเสีย ก็ไม่ได้มีปริมาณมากแบบมีนัยยะสำคัญอยู่แล้ว เวลาฟังไลฟ์เกี่ยวกับหัวข้อนี้ให้ผ่านไปได้เลย เรามาสนใจที่คีย์หลัก ที่ทำให้โลว์คาร์บระทวยกัน นั่นคือ “ไฟเบอร์สูงกว่าข้าวขาว 10เท่า” “โอ้ตไม่มีน้ำตาล ข้าวขาวมีน้ำตาล” “ไม่มีกลูเต็น” “กินแล้วดีต่อสุขภาพ” “กินแทนข้าวขาวไปเลย” นี่คือชุดคำที่นักไลฟ์ใส่มาในสคริปต์แบบคล้ายๆกัน แล้วก็สร้างความรู้ผิดๆให้กับสังคมไปไกลมาก เกินเบอร์ไปเยอะคือจะอวยกันไม่ว่าครับ แต่ถ้าให้ข้อมูลเหยียบข้าวขาวจนแย่ขนาดนี้ แม้ส่วนตัวจะไม่กินทั้ง 2 ข้าว แต่เฮียว่า แบรนด์ต้องแก้ไขและควบคุมนักไลฟ์บ้าง ก่อนจะคิดไปว่านี่เป็นสคริปต์ที่แบรนด์ส่งให้ เพราะมันพูดเหมือนกันหลายคนไปหน่อย แล้วคนไทยโดยเฉพาะตลาด tiktok ต้องยอมรับกันก่อนว่ามีหลายเลเวล ดังนั้น โอ้ต ก็เป็นไปได้ว่าเป็นสิ่งใหมของเขา ไปแนะนำเชียร์ขายแบบดีๆแฟร์ๆ มันจะส่งผลดีต่อแบรนด์มากกว่า โดยเฉพาะในสายตาคนสุขภาพครับ เพราะคนคลีน คนวีแกนที่กินโอ้ตก็เยอะแยะ เอาคลิปให้พวกเขาดูยังส่ายหน้า ว่าพูดกันไปได้ยังไงแบบนั้น
คลิปที่เฮียดู นักไลฟ์บอกชัดๆเน้นๆว่า ไม่มีน้ำตาล ส่งไปให้พ่อที่เป็นเบาหวานต้องคุมน้ำตาลกิน เฮ้ออออ -..-
เฮียได้ฉลากมาเรียบร้อยแล้ว เรามาส่องกันชัดๆ
ในส่วนของโอ้ตเต็มเมล็ด เราจะพบว่าฉลากโภชนาการแจ้งไว้เป็นหน่วยบริโภค หน่วยละ 50กรัม ดังนั้นถ้าเราจะเข้าสู่ดรรชนี 100 (index 100) เราก็ต้องคูณ 2 เข้าไป จะได้
คาร์บ 68
ไฟเบอร์ 8
โปรตีน 12
ไขมัน 7
สำหรับแร่ธาตุวิตามิน ก็อย่างที่บอกไปว่าเราอาจได้ยินเป็นพันๆมิลลิกรัม แต่ก็ต้องอย่าลืมว่า 1000มิลลิกรัม = 1 กรัม เท่านั้นเอง ดังนั้นแร่ธาตุวิตามินต่างๆ อย่างที่เราเรียนกันไปแล้วว่า สายโลว์คาร์บเราได้รับจาก animal based food ก็ครบถ้วนแล้วโดยเฉพาะถ้ากินไข่แบบความรู้ใหม่ ที่ไม่ได้กลัวว่าจะกินมากกว่า2ฟอง อันนี้เราไม่เชยแล้วเนอะ
ทีนี้เรามาดูข้าวหอมมะลิกันบ้าง เอายี่ห้อแบบ Inhouse ทั่วๆไปเลย ไม่ได้เอาเกรดเทพๆมาเทียบนะ เอาแบบปกติ เขาจะใช้หน่วยบริโภคที่ 50กรัมเหมือนกัน เราก็คูณ2 เพื่อเข้า index 100 ได้ความว่า
คาร์บ 78
ไฟเบอร์ 2
โปรตีน 8
ไขมัน 0
ส่วนวิตามินแร่ธาตุไม่ต้องสนใจว่า 0 เพราะคุยไปแล้วว่าเราไปเอาจากอย่างอื่นเหลือเฟือ
ทีนี้เราเอาทั้ง 2 อย่างมาเปรียบเทียบกันนะครับ เพื่อให้เห็นภาพว่าตกลงมันแตกต่างกันแค่ไหน
เบื้องต้นเฉพาะตัวคาร์บข้าวหอมมะลิ มีมากกว่าโอ้ต 10กรัม ในขณะที่โอ้ตแบกไขมันมาด้วยถึง 7กรัม นั่นหมายความว่าเรากำลังกินคาร์บและได้ไขมันไปด้วยพร้อมๆกัน
ในส่วนของคำว่า ไม่มีน้ำตาล ที่ชาวไลฟ์พูดเป็นจุดขายบ่อยๆนั้น จริงตามที่เขาพูดว่าไม่มีน้ำตาล “แต่” ข้าวหอมมะลิ ก็ไม่ได้มีน้ำตาล เพราะข้าวคือแป้ง และแป้งสุดท้ายแล้วก็ต้องย่อยเป็นน้ำตาลอยู่ดี อันนี้เป็นสิ่งที่คนศึกษาสุขภาพจะต้องรู้เป็นพื้นฐานและมีภูมิป้องกันประโยคที่พ่อค้าแม่ค้าชอบพูดว่า “ไม่มีน้ำตาล” เป็นอย่างดีแล้ว ถ้ายังหลงเชื่อระทวยกับคำนี้ คุณต้องพิจารณาตัวเองว่าเชื่อไปได้อย่างไร ไม่ใช่ไปโทษคนขายว่าพูดอย่างนั้นได้อย่างไร เพราะยุคนี้เป็นยุคที่ผู้บริโภคต้องป้องกันตัวเองครับ
สำหรับค่า GI ของข้าวโอ้ตนี้อยู่ที่ 60 (ตามที่แจ้งไว้ใน official shop ของเขา) ในขณะที่
GI ของข้าวหอมมะลิอยู่ที่ 60 เหมือนกันจ้าาาา (แถม GL ให้นะว่าข้าวหอมมะลิมีค่า GL แค่44)
มาถึงไฟเบอร์ คำนวนตัวเลขง่ายๆก็เห็นแล้วว่า ยังไงเสียก็ไม่ถึง 10เท่า ตามที่เราเข้าใจ คำถามคือทำไมเขากล้าพูด ตรงนี้หละครับที่บอกเสมอว่า #ฉลาก3รู้ มันสำคัญ เพราะหน้าฉลากเขาได้บอกไว้แล้วว่าเคลมจากอะไร เขาอ้างอิงข้อมูลจาก “การเปรียบเทียบผลการวิเคราะห์ค่าไฟเบอร์ของผลิตภัณฑ์จากสถาบัน SGS กับ ผลข้าวหอมมะลิจากสถาบันโภชนาการมหาวิทยาลัยมหิดล” ซึ่งจากการเข้าไปดูในเว็บไซท์ที่ลงอ้างอิงไว้ ปรากฎว่าเข้าไม่ได้ ดังนั้นจึงขยายความต่อให้ไม่ได้ว่าวัดจากโพรไฟล์อะไร
หากแยกตามประโยคที่เขาแจ้งไว้ จะพบว่าไม่สามารถบอกได้ว่า โอ้ตที่เอามาเทียบคือโอ้ตที่เป็นสินค้านี้ไหม แล้วข้าวหอมมะลิ ใช้แบบไหน เพราะตอนที่ลองคูณกลับจากฉลากโภชนาการ ตัวเลข 8.6g ไฟเบอร์ มันจะเป็นน้ำหนักแปลกๆ ก็เลยอนุมานไปว่า ตัวเลขที่เคลม น่าจะอ้างอิงโอ้ตทั่วไป ซึ่งแตกต่างกับโอ้ตในถุงเล็กน้อย จะแปลกใจก็ที่ว่า ตัวเลขเคลมจริง 8.6 ปัดขึ้นเป็น 9 แล้ว ตอนทำสคริปก็ยังเคลมว่า 10เท่า คือก็เป็นตัวเลขพูดแล้วมันสวยมันดูอู้หูดี แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า 10เท่า อยู่ตรงไหนของฉลาก
นอกจากนี้ปริมาณคาร์บ 68กรัม ไฟเบอร์ 8กรัม เราไม่อาจเรียกว่าเป็นอาหารไฟเบอร์สูงได้ครับ เรียกว่าสูงกว่าข้าวหอมมะลิแค่ “นิดหน่อย” เท่านั้น เพราะจากการคำนวนแล้วข้าวโอ้ตมีไฟเบอร์ในสัดส่วนแค่ 11.76% เท่านั้น ดังนั้น “สูง” กับ “สูงกว่า” มันต่างกันนะครับ
และท้ายสุดคือ ข้าวโอ้ต มีไขมัน ในขณะที่ข้าวหอมมะลิไม่มีไขมัน อ้าวๆๆๆ คาร์บ+ไขมัน เชียวนะ ได้พลังงานกันเลย
สรุปนะ
– อย่างที่บอกไว้แต่แรกว่า โอ้ต ก็มีตลาดของเขา ชาวโลว์คาร์บควรรู้อยู่แล้วว่าคนละตลาดกันไม่ต้องระทวยว่าดีเด่อะไร
– ในส่วนของการเทียบกับข้าวหอมมะลิ คาร์บห่างกันไม่ถึง20กรัม ไม่ได้ช่วยให้หายป่วยได้ขนาดนั้น ไม่ได้ช่วยให้ผอมลงใดๆ
– ความไม่มีน้ำตาล มันก็ไม่มีน้ำตาลทั้งโอ้ตทั้งหอมมะลิแหละ แป้งทั้งนั้น แล้วมันก็ย่อยเป็นน้ำตาลเน้นๆอยู่ดี
– ไฟเบอร์ โคตรงง จะ 10เท่าท่าไหน น่าจะต้องหาผลการวิจัยที่อ้างไว้มาดูอีกที ยังไม่ปรักปรำ แต่มันขำเฉยๆ ขำเลข 8 แล้วพิมพ์ 9 แล้วพูด 10 อยากหา fact เหมือนกัน ยังไม่มีข้อมูลพอ แต่ตามหลักสุขภาพองค์รวม จงไปดู net carbs ไม่ใช่มาจ้องแต่ไฟเบอร์ว่ามีเท่าไร ไฟเบอร์สูงที่มาพร้อมคาร์บมหาศาล แม่งก็ net carbs สูงอยู่ดี
– ไม่มีกลูเต็น เดี๋ยวก่อนสาว ข้าวหอมมะลิก็ไม่ได้มีกลูเต็นอยู่แล้ว ส่วนใครไม่ได้แพ้ก็ไม่จำเป็นต้องเลี่ยง มันไม่ใช่สารต้องห้าม แหม่ ขนมปังนี่จัดกันแบบ บางนุ่มมมมไส้ทะลักกันไม่เป็นอะไรน๊อ
– สุดท้ายเฮียว่าสำคัญสุด ไขมัน มีเฉพาะในโอ้ต หอมมะลิไม่มี อย่าย้อนแย้งกันนะ ถ้าพี่ซีเรียสความต่างของคาร์บโอ้ตกับน้องมะลิ พี่ต้องซีเรียสไขมันด้วยนะ จะบอกว่าไขมันดีก็เหอะ ไขมันคือไขมัน กินพร้อมคาร์บคือบันเทิงดี อร่อยไปเลยนะพี่
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การดูไลฟ์ขายของ จงดูด้วยความบันเทิง เพราะคนขายจะต้องชูสินค้าเกินเบอร์อยู่แล้ว คนมันลำบาก คนมันต้องหาเงิน มันก็ต้องอวยไส้แหกให้ของมันดีงาม คนจะได้อยากซื้อ พวกพี่ๆหากจะซื้อสินค้าจงดูของที่ได้ ว่าได้อะไร เพื่ออะไร ไม่ใช่ลอยไปลอยมา เค้าว่าดีก็จะหลงระทวย จะกดซื้อกันท่าเดียว สติครับสติ ตรรกวิบัติข้อแรกๆที่พูดกันเลยนะ อย่าเชื่อว่าดีเพราะเค้าบอกว่าดี แล้วของบนโลกนี้นะครับ อะไรที่มันดูหรือฟังแล้ว too good to be true ให้ระแวงไว้เลย สังเกตดิ ในไลฟ์ไม่มีใครโชว์ฉลากโภชนาการ มีแต่เอามาจ่อกล้องที่ไฟเบอร์สูง หุงง่าย นุ่มมมมม อาโหร่ยยยยย สุขภาพดี
ดังนั้นนะครับ ข้าวโอ้ต มีคุณสมบัติให้พลังงาน อุดมไปด้วยคาร์บซึ่งสุดท้ายย่อยเป็นกลูโคส สายควบคุมคาร์บจึงต้องพิจารณาให้ดี เช็คเนทคาร์บที่มีเพื่อตัดสินใจว่าเราเหมาะกับมันไหม และที่สำคัญพิจารณาจากสารอาหารไม่ใช่คำเชียร์ของคนไลฟ์ครับ เอาจริงๆมันก็เหมือนกับร้านค้าที่บอกว่า หล่อฮั้งก้วยแท้100% ทั้งที่มันเป็นโมโกรไซด์นั่นแหละ คนไม่รู้มันก็ไม่รู้เลยพูดไปต้อยๆๆๆ เวลาพลาดมันคือตัวคุณเองที่พลาด เขาขายได้ก็จบไปแล้วครับ