สัญญาณที่บ่งบอกว่าเข้าสู่คีโตสิสแล้ว
กินคีโตมาสักพักแล้ว ก็มักจะเริ่มสงสัย เอ๊…เรามาถูกทางหรือเปล่านะ แล้วเราเข้าคีโตสิสหรือยังหว่า ..
ลองอ่านสัญญาณเหล่านี้ดู ไม่จำเป็นว่าต้องเจอทุกรายการหรอกนะ (คนที่ถูกทุกข้อ น่ามสานมากๆ เลย T-T) บางคนเจอน้อย บางคนเจอมาก บางคนไม่เจอเลยก็มีนะจ๊ะ .. บางคนไม่มีอาการอะไร แต่อยากเจอบ้างเพื่อเป็นรสชาติของชีวิต .. อ้าว ยังงี้ก็ได้หรอ
อาการเหล่านี้ เรียกว่า “คีโตฟลู” จะรู้สึกเหมือนป่วย แต่ไม่ได้ป่วยจริงหรอกนะ เป็นผลข้างเคียงจากการที่ร่างกายกำลังปรับตัว อาการเหล่านี้จะอยู่แค่ชั่วคราวเท่านั้นแล้วหายไปเอง ไม่จำเป็นต้องไปหาหมอ บางคนอาจมีอาการวันเดียว บางคนอาจยาวเป็นสัปดาห์ก็มี .. ถ้าอาการรุนแรงและยาวนานมากจนรู้สึกกังวล ไปปรึกษาคุณหมอได้เพื่อความสบายใจ
1.ปากแห้ง มือแห้ง/ กลิ่นปาก กลิ่นตัว กลิ่นปัสสาวะแรงขึ้น
เกิดจากอะซีโตน ซึ่งเป็นกรดไขมันตัวหนึ่งที่เหลือจากการเผาไขมันมาใช้และถูกขับออกมาทางผิวหนัง ปัสสาวะและลมหายใจ อะซีโตนจะมีกลิ่นเปรี้ยวน้อย เหมือนผลไม้เปรี้ยว บางคนก็ว่าเหมือนแอมโมเนีย
2. ตรวจเจอคีโตนในเลือด ปัสสาวะ และลมหายใจ
การเผาไขมันมาใช้ทำให้มีคีโตนไหลเวียนอยู่ในเลือด บางส่วนที่เหลือใช้จะถูกขับออกมา เวลาตรวจสอบจึงพบเจอคีโตนได้
3. น้ำหนักลด
เป็นเรื่องปกติที่ในช่วงเดือนแรกของการกินคีโตเจนิคไดเอท ที่น้ำหนักจะลดลงฮวบฮาบอย่างน่าตกใจ เพราะร่างกายพยายามจะขับน้ำที่ถูกอุ้มอยู่ในเซลล์ออกมา ทำให้น้ำหนักที่หายไปเป็นน้ำหนักจากน้ำทั้งนั้น พอเข้าเดือนที่สองหรือสาม น้ำในเซลล์ถูกคายออกจนสมดุลแล้ว น้ำหนักจะไม่ลดฮอวบฮาบอีกต่อไป แต่จะค่อยๆ ลดลง และส่วนที่ลดลงจะเป็นน้ำหนักของไขมัน
4. รู้สึกไม่หิว ไม่อยากอาหาร
อาการหิวเกิดจากการที่ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลง ร่างกายจึงกระตุ้นให้เราหาพลังงานด้วยการกิน แต่เนื่องจากเราไม่ได้ใช้กลูโคสเป็นพลังงานอีกต่อไป ระดับน้ำตาลในเลือดมีความเสถียร ไม่แกว่งไปมา เราจึงไม่ค่อยหิวและรู้สึกอิ่มได้นานขึ้น
5. รู้สึกไม่มีแรง
การที่ร่างกายขับน้ำออกมาจำนวนมากในช่วงแรก และเซลล์ไม่อุ้มน้ำมากเหมือนแต่ก่อน ทำให้ระดับอิเลคโทรไลท์ในร่างกายเสียสมดุล และแสดงอาการออกมาเหมือนเราไม่มีเรี่ยวแรง ไม่มีกระจิตกระใจอยากจะทำอะไร แนะนำให้กินน้ำผสมเกลือทะเล หรือเกลือสีชมพู เพื่อช่วยให้เซลล์อุ้มน้ำได้ดีขึ้น
6. ท้องผูก หรือท้องเสีย
ส่วนใหญ่จะถ่ายไม่ออกเพราะเรากินกากใยอาหารน้อยลงหรืออาจขาดน้ำที่เพียงพอ แนะนำให้กินอาหารที่กากใยสูงเพิ่มขึ้น เช่น ผักหรือซิลเลี่ยมฮัสก์ เป็นต้น และ/หรือเสริมแมกนีเซียมซิเตรด หรือแมกนีเซียมออกไซด์ โดยแมกนีเซียมจะช่วยคลายความตึงเครียดในลำไส้ และดึงน้ำเข้าสู่ลำไส้มาก ช่วยให้อุจจาระอ่อนตัวลงและถูกขับออกมาง่ายขึ้น ในหนึ่งวัน เราต้องการแมกนีเซียมราว 300 – 420 มก. แต่ถ้ากินมากก็ไม่ดี อาจเกิดอาการข้างเคียงเช่น หัวใจเต้นช้าลงหรือหายใจช้าลง
7. ตะคริว
เกิดจากการขาดอิเลคโทรไลท์ ควรเพิ่มเกลือสามอย่าง ได้แก่ โซเดียม โพแทสเซียมและแมกนีเซียมให้เพียงพอ อาการตะคริวจะดีขึ้นและหายไปเมื่อเข้าคีโตอแดปเต็ดแล้ว
โต้งเอง บุคคลที่พยายามเล่าเรื่องที่คนไม่รู้เรื่อง ให้รู้เรื่อง แม้บางทีคนที่อยากให้รู้เรื่อง จะอ่าน/ฟังแล้วไม่รู้เรื่องก็ตาม