คีโตสิสกับคีโตอแดปเต็ดดูๆ ไปก็เหมือนกับพี่น้องคลานตามกันมาก็ไม่ปาน ถ้าเราไม่อยู่ในภาวะคีโตสิสต่อเนื่องและนานพอ (หรือที่เรียกๆ กันว่า “หลุดกินคาร์บเกินอีกล้าว!!!”) เราก็จะคีโตอแดปเต็ดได้ช้า หรืออาจไม่มีโอกาสได้เจอกับภาวะนั้นเลยก็เป็นได้
แล้วคีโตสิส กับ คีโตอแดปเต็ดคืออะไร??
คีโตสิส
….เป็นภาวะที่ร่างกายเผาผลาญไขมันมาใช้เป็นพลังงาน แทนที่จะใช้กลูโคสตามปกติ เพราะไกลโคเจนสะสมในร่างกายถูกใช้จนหมดถึงขนาดที่ต้องหันไปเผาผลาญไขมันที่เป็นขุมพลังงานสำรองมาใช้แทน
เอาเข้าจริง วันไหนที่เราอดอาหารข้ามคืนก่อนไปเจาะเลือดในเช้าวันรุ่งขึ้น หรือวันไหนที่เราออกกำลังกายหนักๆ เราก็อาจตรวจเจอคีโตนในปัสสาวะได้ไม่ยาก แต่ภาวะนี้ไม่ถือว่าได้ประโยชน์แก่ร่างกายนักและไม่ถือว่าเราอยู่ในภาวะคีโตสิสที่แท้ทรู ก็แค่คีโตสิสชั่วคราวเท่านั้น
แล้วคีโตสิสแบบไหนที่เป็นประโยชน์และแท้ทรูล่ะ??
ภาวะคีโตสิสที่เป็นประโยชน์เรียกว่า “Nutritional Ketosis” ซึ่งก็คือ ภาวะที่เราตรวจพบคีโตนในเลือดระหว่าง 0.5 – 5 mmol/dl.ในช่วงแรกๆ ของการกินคีโตที่ถึงแม้เราจะตรวจเจอคีโตนในเลือดแล้ว แต่ร่างกายก็ยังไม่คุ้นกับการใช้ไขมันเป็นพลังงานหลักนะ ถ้าเรากินคาร์บเข้าไป ร่างกายก็จะกลับไปใช้คาร์บก่อน ถ้าหมดถึงจะกลับไปใช้ไขมัน วนเวียนอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าเราจะวิชาแก่กล้า และก้าวข้ามเข้าสู่คีโตอแดปเต็ดได้อย่างสวยงาม
คีโตอแดปเต็ด…
เป็นภาวะที่ร่างกายเรียนรู้ที่จะใช้พลังงานไขมันเป็นหลัก ถึงแม้มีคาร์บเข้ามาในร่างกาย ร่างกายก็ยังจะเลือกใช้ไขมันเป็นพลังงานหลักอยู่ดี .. กว่าจะเข้าโหมดคีโตอแดปเต็ดได้ก็ต้องอดทนและมีวินัยในการคุมคาร์บให้ต่ำอย่างต่อเนื่อง ถ้าคุมคาร์บได้เป๊ะเว่อร์ อาจใช้เวลาเพียง 21 วัน แต่ถ้าหลุดกินคาร์บบ่อยๆ อาจใช้เวลาเป็นเดือนหรือหลายเดือน นี่แหล่ะ…”กรรม” เป็นผลของ “การกระทำ”ของจริง 5555+
สรุปง่ายๆ นะแจร้
อยากเข้าคีโตสิส…
– ให้ตัดคาร์บออกไป หรือกินคาร์บให้ต่ำกว่าที่ร่างกายต้องการ (ไม่มากกว่า 5% ของแคลอรี่ต่อวัน)
– คาร์บ 5% นั้นควรมาจากผัก ไม่ใช่จากแป้งหรือน้ำตาล โบกมือลาแป้งและน้ำตาลไปเลยได้ยิ่งดี
อยากเข้าคีโตอแดปเต็ด…
– รักษาเนื้อรักษาตัวให้อยู่ในภาวะคีโตสิสให้ได้ยาวๆ
ง่ายเน้อะ หลักการคีโตก็แค่นี้เอ๊งงงงง…พล่ามซะยาว อ่านแปดบรรทัดสุดท้ายก็รู้เรื่องแล้ว.. 5555+
ส่วนไอ้ที่ว่ายากอ่ะ…ความอยากกินข้าวกะขนมล้วนๆ … ใครอ่อนแอ ก็แพ้ไป… ตัวใครตัวเผือก .. อุ๊ปส์..เผืิอกไม่คีโต เราจะหลุดคีโตสิสหรือเปล่าเนี่ย งึมงำ งึมงำ…