6 เหตุผลว่าทำไมกินคีโตแล้วผมร่วง และจะป้องกันได้อย่างไร
วงจรชีวิตของเส้นผม แบ่งเป็น 3 ช่วงคือ
– Anagen Phase หรือระยะที่ผมเจริญเติบโต ระยะนี้กินเวลา 2-6 ปี ผมจะยาวขึ้นราว 1 เซนติเมตรทุกๆ 28 วัน
– Catagen Phase หรือระยะหยุดเติบโต เป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ ราว 2-3 สัปดาห์ ที่ผมจะหยุดยาว เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ระยะสุดท้าย
– Telogen Phase หรือระยะสุดท้าย รากผมในระยะนี้เป็นเซลล์ที่ไม่มีชีวิตแล้วเพื่อรอการหลุดร่วง ขณะเดียวกันจะมีผมเส้นใหม่ที่กำลังเริ่มเข้าสู่ระยะเจริญมาดันผมเส้นเก่าที่ตายแล้วหลุดร่วงไป เส้นผมทั้งหมดบนหนังศีรษะจะมีประมาณ10-15% ที่อยู่ในระยะนี้ และแต่ละเส้นจะอยู่ในระยะนี้ประมาณ 100 วัน
วงจรชีวิตของเส้นผมจะเปลี่ยนแปลงจากภาวะของร่างกายที่เปลี่ยนไป เช่น ความเครียดที่เพิ่มขึ้น ซึ่งก่อให้เกิดอาการผมร่วงมากกว่าปกติ การเปลี่ยนมาใช้วิถีไดเอทแบบคีโตทำให้ผมร่วงได้อย่างไรบ้าง เรามาดู 6 สาเหตุหลักๆ กัน
1. การกินน้อยเกินไป (Large Calorie Deficits)
การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว หรือการได้รับพลังงานจากไขมันหรือโปรตีนที่มีคุณภาพไม่เพียงพอ (ย้ำว่ามีคุณภาพด้วยนะ ไม่ใช่แค่ให้พลังงานอย่างเดียว) ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเส้นผม เพราะเมื่อร่างกายไม่ได้รับพลังงานที่เพียงพอ ร่างกายจะลดความสำคัญกับสิ่งที่ไม่ค่อยจำเป็นต่อการดำรงชีวิต สิ่งแรกๆ ก็คือเส้นผมนั่นเอง
2. การขาดวิตามินและเกลือแร่ (Vitamin & Mineral Deficiencies)
การกินอาหารที่คาร์บต่ำ เซลล์จะไม่อุ้มน้ำ และไตจะรีดน้ำส่วนเกินนี้ออก ซึ่งจะออกมาพร้อมๆ กับแร่ธาตุบางชนิด เช่น โซเดียม ซิงก์ แมกนีเซียม โพแทสเซียม และไอโอดีน ถ้าเรามองข้ามที่จะเสริมแร่ธาตสำคัญเหล่านี้ก็จะส่งผลให้เกิดอาการผมร่วงได้ (ร่างกายกำจัดสิ่งที่จำเป็นน้อยที่สุดออกมาไง)
3. ความเครียด (Stress)
การเปลี่ยนวิธีไดเอทก่อให้เกิดความเครียดสูงแบบทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว ความเครียดอาจเกิดจาก การที่สารอาหารไม่เพียงพอ กินน้อยเกินไป ควบคุมอาหารมากเกินไป ความเครียดทางอารมณ์ คีโตฟลู ผื่นคีโต เป็นต้น ซึ่งความเครียดพวกนี้ีอาจก่อให้เกิดอาการ อาทิ
3.1. Alopecia Areata อาการผมร่วงเป็นหย่อมใหญ่ๆ
3.2. Telogen Effluvium ผมร่วงมากกว่าปกติ
3.3. Trichotillomania อาการทางจิตที่เวลาเครียดแล้วเจ้าตัวนั่งดึงเส้นผมทิ้งโดยไม่รู้ตัว
โดยอาการแบบที่ 2 หรือ Telogen Effluvium พบเห็นได้ง่ายในช่วงแรกๆ ที่เริ่มกินคีโต และมักจะเป็นอยู่แค่ 2-3 เดือน
4. ขาดไบโอติน (Vitamin H)
ไบโอตินช่วยให้ร่างกายสามารถแปลงอาหารให้เป็นพลังงานได้ดี จากการศึกษาในหนูทดลองพบว่า หนูที่กินโลว์คาร์บ ไฮแฟต มักจะขาดไบโอติน
5. โปรตีนน้อยเกินไป
ชาวคีโตมีโอกาสที่จะกินโปรตีนน้อยกว่าที่ควรได้รับ เพราะความกลัว Gluconeogenesis หรือการที่ร่างกายแปลงโปรตีนไปเป็นกลูโคส ซึ่งไม่เป็นความจริงเสียทั้งหมด เพราะกลายเป็นว่า ผู้ที่กินอาหารแบบ Carnivore Diet ที่เน้นกินโปรตีนเป็นหลัก กลับสามารถอยู่ในสภาวะคีโตสิสได้ง่ายกว่าซะอีก เพราะมีการวิจัยค้นคว้าแล้วว่า ร่างกายจะปรับเปลี่ยนโปรตีนเป็นกลูโคส เท่าที่จำเป็นต้องใช้เท่านั้น ไม่ได้มีการสร้างเพื่อสะสมแต่อย่างใด สิ่งที่ต้องคำนึงคือ โปรตีน ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอรวมทั้งเป็นส่วนสำคัญในการ สร้างฮอร์โมน ดังนั้นโปรตีนจึงเป็นอีกปัจจัยที่เกี่ยวพันกับเส้นผมอย่างเลี่ยงไม่ได้
นอกจากนี้ยังมีการศึกษาพบว่า การกินอาหารน้อยและการขาดโปรตีนเป็น 2 สาเหตุหลักที่ทำให้ผมร่วง
อีกประการนึงคือ การขาดธาตุเหล็ก มีสารโปรตีนตัวนึงที่เป็นตัวยึดเก็บธาตุเหล็กไว้ในเม็ดเลือดแดงชื่อว่าเฟอร์ริติน (Ferritin) เมื่อระดับเฟอร์ริตินในเลือดต่ำ จะก่อให้เกิดอาการไฮโปไทรอยด์ ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพผมเช่นกัน
6. สุขภาพลำไส้
จุลินทรีย์ในลำไส้ชนิดไม่ดีก่อให้เกิด leaky gut syndrome ซึ่งส่งผลให้ร่างกายเกิดความเครียดและผมร่วงได้ การกินโพรไบโอติกส์ร่วมกับการเสริมไบโอตินจะช่วยเสริมเรื่องสุขภาพเส้นผม เล็บและผิวหนังได้ดีกว่ากินไบโอตินเพียงอย่างเดียว
อาหารที่ควรทานเพื่อป้องกันและลดการผมหลุดร่วงระหว่างการทานคีโต ได้แก่
– Biotin หาได้จาก ไข่ แซลมอน แอลมอนด์ อโวคาโด ฯลฯ
– MSM สารประกอบที่จะช่วยเสริมสร้างเคราติน ที่ดูแลเรื่องสุขภาพผมและเล็บ MSM ยังช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับกระดูกอ่อนและเนื้อเยื่อเกี่ยวพันต่างๆ ด้วย สาร MSM พบได้ในสาหร่าย
– Bone Broth เพราะความที่น้ำตุ๋นกระดูกอุดมไปด้วยคอลลาเจน ประเภทที่ 2 (Type II Collagen) ที่พบได้ในกระดูกและกล้ามเนื้อเกี่ยวพันของสัตว์เท่านั้น
– Collagen การขาดคอลลาเจนนอกจากจะทำให้ผมอ่อนแอแล้ว ยังทำให้เกิดอาการชราก่อนวัยด้วย
– Zinc หาได้จากเนื้อแกะ เนื้อวัว ผงโกโก้ เมล็ดฟักทอง เห็ด และเนื้อไก่
– น้ำมันมะพร้าว เพราะน้ำมันมะพร้าวอุดมไปด้วยวิตามิน K, E และธาตุเหล็ก
แปลและเรียบเรียงโดย เพจ KETOEASY
Keto Easy ที่นี่ คีโตเป็นเรื่องง่ายๆ สินค้า เนื้อหา สาระ พูดคุย คีโตไทยๆ
ที่มา https://perfectketo.com/keto-hair-loss/?fbclid=IwAR1avR7nj6Tg8JwfUJMyWCMB76c7IXySYbxKS9Ip9O8BODp9rDjuvklXpdc