fbpx

รายการบอกเล่า ’90+1
เทปที่ 3 : Hair band ยุค 90 / การกินอาหาร 0 แคล 0 คาร์ป มันยังไงกัน?

ต่อเนื่องจากเทปที่2 พูดถึงเพลงเก่า นอกจากเพลงไทยแล้ว เพลงสากลก็มีอิทธิพลต่อเส้นทางสายดนตรีของพวกเรา แม้จะเป็นแนวขอบฟุตบาท ที่ไม่ได้เก่งกาจอะไรเหมือนนักดนตรีเขา แต่ก็บันดาลใจให้เข้าห้องซ้อมตั้งวงกับเขาบ้างเหมือนกัน

รากฐานวงดนตรีก็จะเป็นแนวร็อค สมัยนั้นเรียกกันว่า Hair Band หรือ วงที่เป็นร็อคผมยาว เล่นแนวเฮฟวีเมทัล ทางเฮียโต้งก็จะไปทางร็อคสาวฟัง เช่น Gun and Roses. Bon Jovi, Mr.Big, Extreme หัดเล่นเพราะจะได้มีคนมาดู ส่วนทางพี่หนึ่งก็จะออกไปทางสายกีตาร์ฮีโร่ เช่น Van Halen เป็นต้น

สมัยนั้นสังคมแบบ social media ยังไม่มี โธ่ แค่ internet ยังไม่มีเลยนายเอ๋ย ดังนั้นการแกะเพลงก็จะเป็นการพึ่งพา หนังสือคอร์ดเพลง และ เทป peacock นั่นเอง

เรามาลองดูกันครับว่า Hair Band ที่พี่หนึ่งและเฮียโต้ง ฟังกันสมัยนั้นมีอะไรบ้าง นี่แค่น้ำจิ้มนะครับ

เขาคนนี้เป็นมือกีตาร์ระดับตำนานอีกคนนึงของโลก ที่พี่หนึ่งพูดถึง
วง Hair Band ที่สาวไทยสมัย ’90 รู้จักกันดี ร้องเพลงนี้กันได้ทุกคน
อีกตำนานของ Hair Band ที่ทำการตลาดตัวเองเก่งที่สุด ยืนหยัดมาจนทุกวันนี้
puppet ที่ในคลิปพูดถึงว่าคนรุ่นใหม่หันกลับมาฟัง
Steve Vai ที่พี่หนึ่งพูดถึง
White Lion จ้า

Part สุขภาพ

ในส่วนของสุขภาพ เกี่ยวกับการเลือกอาหารโดยเฉพาะของคนคีโต ที่ยังจัดสรรอาหารโดยคำนึงแค่เรื่องของ คาร์บ 0 แคล 0 นั้น ก็อยากจะแชร์ไอเดียว่า อยากให้ตระหนักถึงปริมาณสารอาหารที่ร่างกายควรได้รับ เริ่มต้นด้วยการรู้จักการมองวัตถุดิบ ว่าได้สารอาหารอะไรแค่ไหน ด้วยการกะประมาณแบบง่ายๆ เช่นเรารู้สึกว่าควรได้โปรตีน 100กรัม ก็ให้ลองดูว่า หมู 100กรัม เราได้โปรตีน 25กรัม ดังนั้นถ้าเราต้องการโปรตีน 100กรัม ก็จำง่ายๆว่า หมูซัก 4ขีด

ตัวเลขพวกนี้ไม่ได้ตรงเป๊ะอยู่แล้ว แต่ก็ถือว่าใกล้เคียงไม่มากก็น้อย เพราะจริงๆก็ขึ้นอยู่กับชิ้นส่วนนั้นๆ ว่าเป็นส่วนไหน หมูตัวนั้นอ้วนหรือผอม แม้แต่ผักก็เช่นกัน ต่างฤดู ต่างพื้นที่ หรือแม้แต่ต่างต้น ต่างผลกัน ก็ได้ตัวเลขที่ต่างกัน ไม่ต้องไปอะไรกับตัวเลขมาก บางคนถึงกับว่าต้องกินโปรตีน 100กรัม กินไปแล้ว 97.3กรัม แล้วมาคิดว่ากินอะไรดีอีก 3.7กรัม อันนั้นก็เป็นการยึดติดกับตัวเลขเกินไป

Essential amino acid คือคีย์เวิร์ดที่ควรจดจำ การกินโปรตีนที่ปริมาณเหมาะสมจึงสำคัญ การกินโปรตีนไม่เพียงพอ ร่างกายจะต้องเอาของเก่ามาใช้ ก็เป็นที่มาของการเสื่อมสภาพต่างๆของร่างกาย ตั้งแต่แก่ก่อนวัย ไปจนถึงเกิดอาการไม่พึงประสงค์ต่างๆ

นอกจากนี้ การที่กินโปรตีนธรรมชาติ ดีที่สุด การกินเฉพาะโปรตีนเชค ก็ทำให้เสียโอกาสการได้แร่ธาตุอื่นๆและปริมาณการดูดซึมเข้าร่างกายจะเป็นอย่างไรก็ยังตอบยาก

เฮียโต้งเสริมว่า ถ้ามองกันภาพกว้างแล้วจะเห็นว่า ทุกไดเอ็ท มีจุดร่วมเดียวกันคือ โปรตีน ไม่ว่าจะ low fat หรือ low carb หรือแม้แต่ วีแกน ก็ต่างมีสิ่งที่ต้องกินให้เพียงพอนั่นคือ โปรตีน ดังนั้นโปรตีนจึงสำคัญมากต่อร่างกาย

พี่หนึ่งได้ให้ไอเดียเพิ่มอีกว่าเรามีคำว่า Essential amino acid และ Essential fatty acid แต่คาร์โบไฮเดรตไม่มี Essential อยู่ข้างหน้า เพราะทางการแพทย์มองว่าร่างกายสร้างกลูโคสได้ ก็เลยจัดเป็น Macro Nutrient ที่ไม่ Essential ที่ไม่กินก็มีชีวิตอยู่ได้ ก็เลยเป็นมุมที่ทางคีโตเอามาพูด แต่หลังๆก็มีการ demonize คือทำให้คาร์บดูแย่ ให้ดูเลวร้าย นั่นก็ถือว่าแย่เกินไป แค่ว่ากินให้เป็นก็ยังถือว่าดี เพราะอะไรก็ตามที่กินเยอะเกินความจำเป็นย่อมมีผลเสียเสมอ แม้แต่น้ำเปล่า ถ้าดื่มเยอะๆ 3ลิตรขึ้นไป ในคราวเดียว ก็ส่งผลเสียกับร่างกายได้

ทุกอย่างจึงอยู่ที่ moderate นั่นเอง ไม่ว่าจะไดเอทแบบไหนก็ตาม ไขมันเองก็สำคัญ เพราะเป็นสารตั้งต้นทุกอย่างในร่างกาย ถ้ากินไขมันน้อยเกินไประยะยาวก็อาจทำให้ร่างกายไม่ทำงานอย่างเป็นปกติ ธรรมชาติสร้างไขมันในธรรมชาติมาอย่างสมดุลอยู่แล้ว ยกตัวอย่างไขมันตามตัวสัตว์ ที่มาในปริมาณที่เหมาะสมโดยธรรมชาติ ดังนั้นการกินอาหารธรรมชาติจังเป็นสิ่งที่ควรเลือกกิน

อย่างสายคีโต ที่พยายามชูการกินไขมัน ถ้าเราจะลดไขมันส่วนเกิน แล้วยังยกกระดกวิปครีมอยู่ ยิ่งถ้าไม่ขี้เกียจออกกำลังกายด้วยเท่ากับว่า กินเข้าไปเยอะแล้วไม่ใช้พลังงานเลย ก็ยากที่จะถึงเป้าหมาย

ดังนั้นสายกลางที่แท้จริงของไดเอท ก็คือการได้สารอาหารที่พอเหมาะพอสมกับการใช้งาน และสารอาหารที่เหมาะสมก็จะมาพร้อมกับพลังงานที่สมดุลในตัวเอง ตามธรรมชาติจัดสรรมาแล้วนั่นแหละ เพียงแต่เราอย่าไปให้ความสำคัญกับสิ่งไหนมากเกินไป บางทีเราไปยึดเรื่องพลังงานมากเกินไป ก็ทำให้เราขาดสารอาหารได้

และท้ายสุดที่ฝากเอาไว้คือ ทุกไดเอทล้วนดีหมด แล้วแต่ใครว่าถนัดแบบไหน ดังนั้นอย่ายึดถือว่าไดเอทของเราดีที่สุด มันเป็นการสร้างสังคมที่ไม่สร้างสรรเปล่าๆ สำคัญคือสิ่งที่เรามั่นใจมากวันนี้ ในอนาคตอาจไม่ใช่ก็ได้ สิ่งที่เราว่าคนอื่นไว้ วันข้างหน้าอาจจะถูกกว่าดีกว่าก็ได้

ในวงการแพทย์ก็เริ่มมีการพูดคุยแล้วว่าจะนำ ไดเอทแบบคาร์บต่ำ คีโต มาช่วยในการรักษาเบาหวาน ได้รับการยอมรับมากขึ้น ถ้าเทียบกับคีโตตอนแรกๆนี่ เทียบไม่ติดเลย ในอนาคตอันใกล้อาจจะมีการประกาศอะไรออกมาอย่างเป็นทางการ ให้เราได้รับรู้กัน ซึ่งถึงเวลานั้นจะนำมา บอกเล่าเก้าสิบ ให้ทราบกันอีกครั้ง อาจจะเชิญคุณหมอที่มีส่วนสำคัญในการผลักดันเรื่องนี้มาคุย ไม่แน่นะ อาจพูดคุยเรื่อง ’90 ของคุณหมอด้วยนะ ว่าเป็นอย่างไร

ถือว่า เราชาว บอกเล่าเก้าสิบ ก็ได้อยู่ทันอีกการเปลี่ยนแปลง มันน่าดีใจจริงๆเลยยยยยย

กดที่นี่ พูดคุยคอมเมนท์ อยากให้คุยกันเรื่องอะไร ไปแปะเม้นท์ไว้ได้ที่เพจพี่หนึ่ง เลยนะครับ เม้นในโพสไหนก็ได้ ติดแฮชแทค #บอกเล่า90บวก1 ไว้ด้วยนะครับ

โต้งเอง บุคคลที่พยายามเล่าเรื่องที่คนไม่รู้เรื่อง ให้รู้เรื่อง แม้บางทีคนที่อยากให้รู้เรื่อง จะอ่าน/ฟังแล้วไม่รู้เรื่องก็ตาม