เราเป็นใคร?
ต้องย้อนไปในปี 2560 นับเป็นศกแรกแห่งการมีไดเอทที่เรียกว่า คีโตเจนิค ไดเอท ในแบบที่ชัดเจนเป็นกลุ่มก้อนครั้งแรกของประเทศไทย ภายใต้การนำร่องของพี่หนึ่ง Keto Daddy ที่ได้กรุยทางทำข้อมูลภาษาไทยแบบเป็นทางการเป็นคนแรกๆของไทย
ในช่วงปีนั้นพวกเราก็โลดแล่นอยู่ในสังคมคีโต นำสิ่งที่เรียนรู้จากสื่อต่างประเทศมาแปลสรุป แบ่งปันกันแลกเปลี่ยนส่งที่ไม่รู้ให้กันและกัน หนึ่งในนั้นก็คือเรื่องราวของ อาหารและขนม ด้วยพื้นฐานประสบการณ์ของคุณเอ๋ ที่เกิดในครอบครัวร้านอาหารสไตล์ home cook ก็ได้มีการปรับวัตถุดิบ จนได้สูตรอาหารที่เป็นแนวทางสารอาหารที่คีโตใช้อยู่ ออกแจกจ่ายทางออนไลน์ เพราะ ณ วันที่เริ่มต้นนั้น มันไม่ได้มีข้อมูลหรือโพสใดๆให้อ่านและทำตามมากมายเหมือนสมัยนี้ คนรุ่นนั้นจึงใช้การแบ่งปัน เป็นหนทางของการขยายความรู้
จนมาถึงในส่วนของขนม ที่เกิดมีความนิยมขึ้นมาแบบขีดสุด ถึง 2 สูตร ได้แก่ คุ้กกี้คีโต และ เจแปนนิสชีสเค้ก คีโต ด้วยความที่มันทำได้จริงแบบกินได้หายอยากขนมจริงๆ ผู้คนในช่วงนั้นจึงขนานนามให้ว่า คุ้กกี้คีโตในตำนาน และ ชีสเค้กในตำนาน ซึ่งเราคิดว่ามันอาจเป็นการหมายความถึง เวลาที่อ้างอิงสูตรเวลาคุยกัน จะได้เข้าใจว่าสูตรนี้ และเพราะมันเป็นสูตรแรกๆที่แจกให้ทำฟรี ความนานของมันก็เลยแทนด้วยคำว่า ตำนาน ที่หมายถึง นาน เก่า แก่ มากกว่าจะดีเลิศเกินใคร แม้จะมีผิดหวังนิดๆว่า ความตั้งใจเดิมคือ คิดสูตรให้เพื่อทำกินได้ที่บ้าน หายอยากขนม แต่ก็มากลายเป็นการค้า มีคนเอาสูตรไปทำขายในที่สุด ซึ่งก็เข้าใจได้เพราะเป็นช่วงเปลี่ยนยุคสมัย จากเดิมที่กลุ่มเบเกอรี่ยุคก่อน เขาจะไม่เอาสูตรแจกไปทำขาย ด้วยการรักษาเจตจำนง แต่ความบริสุทธ์ตรงนั้นก็เริ่มสลายไปตามกาลเวลา ช่วงปี 2560 ก็เป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงตรงนั้นเช่นกัน เรียกว่า norm นั้นไม่ได้รับความใส่ใจอีกแล้วในยุคใหม่
ก็เลยขายด้วยเลย?
ใช่ แต่ในช่วงแรกของเรา ก็ยังไม่นำสูตรที่เคยแจกมาทำขาย ไม่ว่าจะคุ้กกี้หรือชีสเค้ก คือว่าในช่วงปลายๆปี 2017 ก็เริ่มมองเห็นจุดเปลี่ยนของวงการคีโต คือหลังจากที่แจกสูตรให้ทำ ก็มีการลองทำ ส่งการบ้าน ตรวจการบ้าน จนสำเร็จทำได้กันหลายคน ก็เริ่มมีคนทำสูตรขนมต่างๆออกมาแจกจ่ายกัน หัดทำกัน เริ่มมีเยอะมากขึ้นปุ๊บ หลายๆคนที่ทำขนมไม่ได้นั้น ก็มีคนที่ทำเป็นแล้ว ส่งไปให้ชิมถึงบ้านผ่านพัสดุไปรษณีย์ kerry express ถึงจะมีแล้วในตอนนั้น แต่กลุ่มคนไทยก็ยัง งูๆปลาๆในการส่งพัสดุแนวนี้ จากการส่งให้กินกันฟรีๆ ก็เริ่มมีความเกรงใจ โอนค่าวัตถุดิบให้ตอบแทน และนี่ก็เกิดเป็นกลไกการขายขนมคีโตในประเทศไทย ขึ้นเป็นครั้งแรก คือปลายปี 2017 (พศ. 2560) นั่นเอง
แต่สินค้าที่เราขายในตอนแรกคือ เนยอัลมอนด์ รสธรรมชาติ และ รสดาร์คชอค โดยเฉพาะรสดาร์คชอคนั้น สร้างชื่อด้วยยอดขายถล่มทลายมาก ด้วยสมญานามของมันคือ นูเทลา แห่งคีโต เพราะเราใช้ดาร์คชอคแท้ๆ 85% ผสมกับเนยอัลมอนด์แท้ๆ ที่ปั่นละเอียดระดับไมครอน ผสมกับฮาเซลนัท กลิ่นซ่อนอยู่เป็นฉากหลัง มันคือนูเทลาชัดๆ ขายดีจนแพคกันไม่ทันเลยทีเดียว
ทำไมไม่เริ่มจากของที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว?
ช่วงแรกนั้น ใครทันรุ่นเราก็จะรู้ว่ามีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้น การค้าเป็นหนึ่งในตัวเร่งเร้าให้คนแสดงสิ่งที่เป็นตัวตนลึกๆออกมา เราเลยเลือกเส้นทางของตัวเอง โดยไม่พึ่งพาคอมมูนิตี้ใดๆ เพราะเชื่อว่า เส้นทางคีโตนั้นไปได้อีกหลายสาย เราเองมีความรู้ก็กล้ารับรองว่าไม่น้อยหน้าใคร ก็เลยเริ่มสร้างเส้นทางของตัวเอง ด้วยการไม่เอาชื่อเสียงเดิมๆมาใช้ต่อยอด แต่เริ่มใหม่ตั้งแบรนด์ที่เลี่ยงการ ref ถึงตัวเรามากที่สุด ทำให้เป็นการไร้ตัวตนที่สุด ส่วนนึงจะได้รู้ด้วยว่า สินค้ามันดีจริงหรือคนซื้อเพราะตัวเรา นั่นเลยเป็นที่มาของ keto easy และ มาสคอตคือ อโวคาดี้ เราตั้งใจทำให้เป็นแนวจิ๊กกี๋ รู้จักไหม จิ๊กกี๋จะเป็นจิกโก๋ฝั่งผู้หญิง จะออกซ่าๆไม่กลัวใคร เพราะ content ที่เราทำก็กล้าฉีกจากขนบของคีโตไทยในยุคนั้น
ก็ปรากฎว่ายังขายได้ดี นูเทลา ยังเป็นตัวเอก ที่ทำเท่าไรก็ไม่ทันขาย
แล้วชีสเค้กมากี่โมง?
วันนึงในปี 2018 จำวันเดือนปีไม่ได้แล้ว มีตลาดนัดเจ้านึงติดต่อทางเพื่อนเรามา เขาบอกว่าเป็นแนวตลาดนัดเสาร์อาทิตย์ เล็กๆ อยากเชิญสินค้าคีโตมาออกร้านกัน เราก็รับฟังไว้ แต่ยังไม่ได้อะไรมากเพราะขายของที่มีก็ยังไม่ทัน ตอนนั้นเอาน้ำตาล lakanto เข้ามาขายด้วยเพราะใช้กินเองตลอด น่าจะเป็นเจ้าแรกๆในไทยนะ เพราะมันแพง 5555
สักพักนึงก็เห็นว่าทางตลาดเขายังตามมาถามอีกที ก็เลยตอบรับไป และคิดว่าถึงเวลาท้าชนแล้ว ปรากฎว่าหลังจากลงทะเบียนเสร็จได้รับรหัส KTH001 กลับมา นั่นหมายถึงเป็นคู่ค้าคนแรกของตลาดนัดนี้ ที่ชื่อว่า Ketohouse ในช่วงแห่งการมาของคีโตเฮาส์นั้น ยังเป็นแค่การตั้งโต๊ะเล็กๆ สัปดาห์แรก น่าจะมีคนมาขายอยู่ราวๆ 3เจ้าถ้าจำไม่ผิดนะ ตอนนั้นเราเริ่มทำชีสเค้กขายแล้ว ก็เลยคิดว่าเอามาขายที่นี่ด้วยน่าจะดี เพราะมีทำเค้กทำขนมหลายแบบเลยตอนนั้น ถ้าคนได้กินแบบไม่ต้องรอไปรษณีย์ก็คงดี และบางอย่างก็ส่งไปรษณีย์ไม่ได้ด้วย
แล้วก็ไปสร้างปรากฎการณ์ขายหมดก่อนบ่ายโมง (ตลาดเริ่ม 10โมง ตามประสาตลาด weekend) พอข่าวมันกระจายออกไป ก็มีแม่ค้าทะยอยกันเข้ามาขายมากขึ้น เพราะตอนเราไป เอาไปเท่าไรก็หมด มีเยอะก็เหมากันเยอะ ช่วงนั้นก็สนุกดี เราเอาวิชาการจัดการหน้าร้าน ที่เรียกว่า VM หรือ Visual Merchandising รวมกับอาชีพโฆษณา ที่ต้องทำสื่อการขายหรือ POP (point of purchase) มาทำให้สินค้าบนชั้นวางโดดเด่น มี branding ด้วยมาสคอตคาแรกเตอร์ อโวคาดี้ ก็ยิ่งทำให้ brand เราชัดมากจดจำได้ง่ายและหนักแน่น
ปี 2018 นี่ก็ทำให้เริ่มเกิดเค้ารางบางอย่าง จากชีสเค้กที่ทำส่งไปรษณีย์ กับ ทำขายที่คีโตเฮาส์
เค้ารางแบบไหน คิวข้ามปี?
คือมันเริ่มมีคนสั่งมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่การผลิตเรามีจำกัด จนต้องถามว่ารอได้ไหม ปรากฎว่ารอกันได้ แล้วดันรอกันได้ทุกคน ก็เกิดการจัดเรียงคิวขึ้นในที่สุดก็เป็นอีกปรากฎการณ์ในชีวิต คือมีคนยินดีรอคิวแบบข้ามปี คือมันค่อยๆเริ่มจาก เดือนนึง สามเดือน หกเดือน มีแบบว่าจองกันยายน ได้รับ กุมภาพันธ์ปีหน้า ก็เลยขำๆกันว่า คิวข้ามปี ปรากฎว่าหลังจากนั้นมีหลายคนที่จองข้ามปีจริง คือ เมษานี้จองไว้ว่าเมษาหน้าจะเอา
แล้วการจองของเราคือไม่ปากเปล่า จองลมได้ลม จองเงินได้ของ 5555 การจองของเราจะนับสลิปเป็นการยืนยัน ซึ่งเรามองว่าเป็นการสะดวกในการทำขนมแบบไม่เสียของ ไม่เท ไม่จองเล่น แต่ก็ต้องขอบคุณเพื่อนๆทุกคนด้วยที่ไว้ใจ เพราะการส่งเงินมาให้ใครสักคนยาวนานขนาดนี้ มันต้องมั่นใจกันมากเลย และมันก็ทำให้เราต้องรับผิดชอบร่างกายให้ดีที่สุดเพื่อทำให้ครบ 5555
สบายเลยสิ ?
จะว่าสบายก็สบายคือมันมีรายได้แน่นอนละ แค่ทำตามหน้าที่ให้ดี แต่ลึกๆมันไม่สบายนะ การทำขนมแบบนี้มันโหด โหดตั้งแต่เตรียม ทำ เช็ดล้าง โชคดีที่การส่งของ kerry scg รับไป และโชคดีอีกที่ scg เขตเราทำงานดีมาก
ในขณะเดียวกัน ความไม่สบายอันใหญ่หลวงคือ พอเห็นคิวแล้วไม่สบายใจที่คนต้องมารอกัน พอรอแล้วก็คาดหวัง มันทำให้เราเครียดและต้องจริงจังกับทุกปอนด์ที่ออกไป โอเค ผลงานมันชัดเจนว่าไม่มีติติงกลับมา คิดว่าคนที่ไม่ชอบก็คงไม่ได้กลับมาสั่งใหม่ แต่ก็ไม่ถึงกับแย่จนมีความเสียมาตรฐานจนต่อว่ากันได้กลับมานะ
และตอนที่โควิดมานั้น มันเป็นจุดที่พีคมากๆเฉยเลย พีคคนคิดว่า เราควรหยุดเรื่องคิวได้แล้ว เราก็เริ่มตัดคิวแต่ละปีให้สั้นลง แต่มันเป็นเหมือนมุกตลกว่า ถนน ยิ่งตัดยิ่งยาว สมมติว่าเราบอกละว่า ปีนี้ตัดคิวที่กันยายน รับจองอีกทีปีหน้า เพราะคิวมันทะลุไป มีนาคมแล้ว ไอ้เดือนกันยานั่นแหละ ถล่มกันมาจองไว้ เพราะไม่อยากรอประกาศของปีหน้า
แล้วจบเรื่อคิวอันยาวนานได้ยังไง ?
ปี 2023 คือการตัดใจแล้ว โควิดเราทดลองสูตรขนม อาหาร ไว้เพียบเพราะผลพวงการ lock down แต่เรามองว่าถ้ายังต้องรับคิวชีสเค้กต่อไป เราจะไม่ได้ move on อะไรเลย เราไม่ต้องมีอะไรพิสูจน์กับชีสเค้กแล้ว จุดเริ่มต้นของเรามาจากการที่คอมมูนิตี้และเราหันหลังให้กัน ซึ่งเราก็ผ่านมาได้ด้วยความจริงจะบอกทุกสิ่ง เวลาจะพิสูจน์ทุกอย่าง เราไม่มีอะไรต้องพิสูจน์แล้ว
ประกอบกับทำบ้านไม่เสร็จซักทีด้วย ก็เลยประกาศว่าหยุดรับ ไปเฉยๆเลย แล้วไล่เคลียร์คิวทั้งหมด แบบกระปิดกระปอย เพราะมีลูกเกรงใจเพื่อนๆตามประสาเราคนไทยด้วยกัน เรียกว่า เด็ดขาดที่สุดแล้วเคลียร์เรียบ ปี 2024 พร้อมด้วยตัวเบาๆแล้ว 55555
นี่เพิ่งจะเข้าเรื่อง ตำรับเอ๋?
ใช่ 5555 ตอนนี้โครงสร้างของ siripun.com มันชัดเจนมากละ มี content ล่อตีนด้วยเพจโต้งเอง มีกลุ่มต่างๆที่ยังค่อยๆเดิน ส่วนเพจและกลุ่มที่มันคีโตมากๆ เราเริ่มลดบทบาทแล้ว ด้วยความที่เรามองว่า พอกันทีกับอะไรที่ต้องติดป้ายคีโต ทั้งๆที่เราทำเพจและแอ๊พ ketohub มาอยู่หลายปี ทำให้ได้เห็นการเคลื่อนของอะไรหลายๆอย่างในวงคีโต และตกตะกอนว่า พอแล้วกับป้ายคีโต
อ้าวแล้วไม่มีป้ายคีโตคืออะไร ?
ว่ากันตามตรงก็จากแฮชแทค โต้ง คือ pirateketo มันแสดงชัดเจนว่าคีโตควรมองที่หลักการ มากกว่าการกำหนดวัตถุดิบอาหาร นั่นคือต่อจากนี้ไป ขนมและอาหาร ของตำรับเอ๋ จะเลิกใช้คำว่าคีโต
แต่
จะบอกวัตถุดิบ แสดงสารอาหารจากการคำนวนด้วยค่ากลางจากหลายๆแหล่ง เพื่อความชัดเจนที่สุด และบอกได้เลยว่าเป็นค่าสารอาหารแบบกรุณาเข้าใจชีวิต ว่าไก่แต่ละกิโลไม่เท่ากัน มะเขือเทศแต่ละฤดูไม่เท่ากัน อย่างที่แนะนำเสมอว่าถ้าซีเรียส บวกไปเลย 30% แต่เราคำนวนจากความรู้ที่มี จาก ref ที่น่าเชื่อถือ
ดังนั้น เราจะบอกชัดเจนว่า คาร์บ โปรตีน แฟต เท่าไร ให้คนซื้อไปพิจาณาเองว่าจะกินไหม เราจะไม่แปะป้ายคำว่าคีโตอีกต่อไป ใครสะดวกแบบไหน เอาที่ตัวเองสบายใจ
คิดว่าเป็นอีกวิธี ที่จะทำให้คนคีโต เรียนรู้ที่จะพิจารณาสารอาหารได้เองสักทีด้วยแหละ เพราะจากการให้ความรู้ในเพจ จะพบคำถามตลอดเวลาว่า อันนี้คีโตไหม
แล้วนิยามของตำรับเอ๋ คืออะไร?
ตำรับเอ๋ เป็นรสชาติรสนิยมแบบ home cook คือเราตั้งใจว่าจะเป็น chef free zone เพราะทุกวันนี้เชฟเยอะมาก ใครๆก็เป็นเชฟ ซึ่งเราเองรู้ตัวดีว่าไม่เก่งกาจขนาดเชฟ เรามาอยู่แบบเจียมเนื้อเจียมตัว เป็น home cook ที่พยายามดูแลลูกบ้านให้ดีที่สุด ด้วยรสมือแบบบ้านๆ
เรามั่นใจในความสะอาดปลอดภัย คือทุกวันนี้เรากินนอกบ้านมาเยอะแล้ว มื้อที่สบายใจที่สุด ควรเป็นมื้อของบ้าน เพราะการทำอาหารเอง มันเป็นการสร้างความอุ่นใจ เราเลือกเราล้างเรารักษาความสะอาดแบบเดียวกับที่เรากินเองที่บ้าน เราล้างผักทีละใบ เราก็ล้างให้ทีละใบ เราปรุงด้วยความใส่ใจ ด้วยคิดเสมอว่าทำให้คนที่บ้านกิน เพื่อที่จะออกไปต่อสู้กับโลกภายนอกที่ควบคุมอะไรไม่ได้เลย
แล้วคีโตกินได้ไหม ?
นี่สำคัญเลยคือด้วยความที่ ตำรับเอ๋ จะเป็นอาหารที่แจ้งสารอาหารให้อย่างชัดเจน วัตถุดิบชัดเจน แต่เราจะไม่แปะป้ายคีโต ไม่ตั้งชื่อให้มีคำว่าคีโต เพราะอยากให้คนคีโตเลือกอาหารเองเป็น ไม่ต้องไปยึดติดกับกรอบที่ว่า คีโตต้องมีเครื่องปรุงคีโต ต้องซื้อของที่เขียนว่าคีโตเท่านั้น เราอยากให้คนคีโตไม่ต้องไปสนแครอทไม่กี่ก้าน อยากให้คนคีโตมองอาหารได้ทะลุ มีเหตุมีผลในการกินอะไรสักอย่าง ว่ามันประกอบไปด้วยอะไร และ ได้อะไรจากการกินนั้นๆ ไม่ว่าจะประโยชน์ทางร่างกายและจิตใจ เพราะอย่างไรเสีย อาหารย่อมมาควบคู่กับศิลปการทำอาหาร อย่างแยกกันไม่ได้